"สมชาย" ขู่นิรโทษกรรมสุดซอยระวังเกิดวิกฤติการเมืองซ้ำ เตือน "เพื่อไทย" มีบทเรียนปี 57 แล้ว อย่าอ้างเด็ก แต่เรื่องจริงก็คือ "นายตัวเอง" โดน 112 บอกประชาชนรู้ทันแล้ว
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2567 นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สว. กล่าวถึงการการนิรโทษกรรมนักโทษคดี 112 หลังมีชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นเงื่อนไขเรื่องนี้ เพื่อเดินหน้า ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ มันนำไปสู่วิกฤติการเมืองทันที เพราะในอดีตที่ผ่านมา มีบทเรียนมาแล้ว ว่า การชุมนุมประท้วงของประชาชนครั้งใหญ่ที่ผ่าน เกิดจากการเดินหน้านิรโทษกรรม และนำไปสู่ยึดอำนาจ ในปี 2557 เพราะนิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งตอนนี้เกิดการยกร่างแบบเดิมเลย เสนอร่างเข้าสภาและไปสอดไส้ภายหลัง และตอนนี้เริ่มมีคนในพรรคเพื่อไทย ออกบอกว่าต้องนิรโทษกรรมมาตรา 112 โดยอ้างเด็ก แต่เรื่องจริงก็คือ "นายตัวเอง" โดนคดี 112 เรื่องแบบนี้ชาวบ้านเขารู้ทัน และวันนี้หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เอาด้วย เพื่อไทยจะย้ายเข้าข้างกับก้าวไกล มันก็จะยิ่งตอกย้ำเรื่องของดีลลับฮ่องกง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า กรณีของคุณทักษิณเป็นกรณีที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนและส่วนพรรค ไม่ได้นำไปสู่ความปรองดอง แต่จะนำไปสู่วิกฤติการเมือง อาจจะเกิดแรงต่อต้านจากประชาชน ทั่วประเทศหรือไม่ และอาจนำไปสู่อุบัติเหตุทางการเมืองอีกครั้งหรือไม่ ดังนั้น ตนคิดว่า สิ่งที่กรรมาธิการเดินหน้ามาถูกต้องแล้ว ควรมีการนิรโทษกรรม แต่ต้องยกเว้นไว้ 3 คดีสำคัญ ที่ไม่ใช่เรื่องการปรองดอง แต่เป็นเรื่องของวาระซ่อนเร้นไว้ คือ 1.ห้ามนิรโทษกรรมคดีทุจริต โกงชาติบ้านเมือง 2. คดีฆ่า อาชญากรรมร้ายแรง ยาเสพติด และ 3. ดำเนินการไม่ได้เลย คือเรื่อง คดี 112 ซึ่งเป็นกฎหมาย หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสถาบัน
"การที่พรรคเพื่อไทย กำลังจะเสนอเรื่องนี้ โดยร่วมกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นสัญญาณอันตราย ที่จะทำให้การเมืองร้อนขึ้นมาอีกแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่บังควร ผมฝากเรียนไปยังคณะกรรมาธิการ ที่กำลังพิจารณาในเรื่องนี้ว่า ท่านเดินมา ในระดับที่ ได้ดีพอสมควรละ นะครับ อย่าย้อนกลับไป สุดซอยแบบเดิมอีก ถ้าย้อนกลับไป ผมก็มั่นใจว่า จะเกิดวิกฤติ ตามมาทันที ผมเชื่อว่าคนไทย มากมายค่อนข้างประเทศ ก็ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว อย่าฝืนทำเรื่องนี้ต่อไป เพื่อเอาใจนายเลยครับ คุณจะลักหลักตอนไหนก็ตาม ประชาชนรู้ทัน แล้วคงไม่ยอม คุณอาจจะมีเสียงข้างมาก แต่เมื่อทันทีที่กฎหมายออกมาใช้อ่ะ ส่วนใหญ่ก็ ไม่มีแผ่นดินอยู่กัน"