เวลา 13.00 น. พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้เข้ามาพบในวันนี้
ซึ่งใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมงทางด้านหมอเหรียญทอง เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองเดินทางมารับทราบข้อหากรณีที่มีผู้ลักลอบสูบบุหรี่ และเฮโรอีน ภายในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ซึ่งมีการแจ้งข้อหาทั้งหมด 6 ข้อหา ซึ่งมีกรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนใจ อนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ทำให้อับอาย อีก 1 ข้อหาจำไม่ได้ ในส่วนนี้ตนยอมรับบางข้อหา 1 ทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายจริงแต่การทำร้ายร่างกายไม่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ การทำการเพียงแค่ฟกช้ำดำเขียวเท่านั้น ส่วนข้อหาอนาจารตนเองขอปฏิเสธเพราะไม่ได้มีความต้องการเกี่ยวกับเพศ ต้องการเพียงทำให้อับอาย ส่วนที่กล่าวหา ว่ามีการทำอนาจารเด็กอายุน้อยกว่า 15 ส่วนนี้ตนขอปฏิเสธเนื่องจากไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้อายุน้อยกว่า 15 ซึ่งตนเองได้ให้การกับพนักงานสอบสวนและขอให้พนักงานสอบสวนมีการสอบสวนแม่เด็กว่ามีการแจ้งเกิดช้าด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมายืดอายุตามบัตรปนะชาชนที่แจ้งเกิดช้ามาใช้กับตนไม่ได้ ตนมั่นใจว่าอายุเกิน 15 อย่างแน่นอน ที่สำคัญที่ผมสั่งให้แก้ผ้าล่อนจ้อนเนื่องจากในที่เกิดเหตุตนเองเห็นหน้าคนนี้แล้วเชื่อว่าน่าจะติดยาเสพติด แต่ไม่รู้ว่าเสพเฮโรอีน ซึ่งตอนนี้ถูกดำเนินคดีอยู่ตนเองอยากจะให้พิสูจน์อายุว่า 14 จริงหรือไม่เพราะถ้าไม่ใช่ 15 ความผิดก็จะแตกต่างกัน
ยืนยันว่าตนเองขอรับทราบเพียงสองข้อหาคือ ข้อหาแรกทำร้ายร่างกายแต่ไม่เป็นอันตรายต่อกายและใจ และข้อหาที่สอง รับว่าต้องการทำให้อับอายไม่ได้มีเจตนาทางเพศหรือทำอนาจาร ส่วนข้อหาอื่นๆ ตนเองขอปฏิเสธทั้หมด
ในส่วนของตนเองจะมีการดำเนินการในส่วนที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานของโรงพยาบาล และผู้มาใช้บริการประมาณ 50 คนอย่างน้อยจะเป็นผู้เสียหายทางแพ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายคนละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 2 แสนห้าพันบาทซึ่งจะมีการดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตามตนเองยืนยันว่าจะไม่มีการไกล่เกลี่ยใดๆกับคู่กรณีอย่างแน่นอน ทั้งในส่วนที่เขาแจ้งเอาผิดผมและที่ผมจะเอาผิดเขาอย่างแน่นอน
สำหรับในคดีนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาพลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ รวมทั้งสิ้น 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1 ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ (มาตรา 377 ) , ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ( มาตรา 295 ), ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ( มาตรา 309 ) , กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น (มาตรา 278 ) , รังแก ข่มแหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือ เดือดร้อนรำคาญ ( มาตรา 397 ) และ มาตรา 26 ตามพรบ.คุมครองเด็ก
อย่างไรก็ตามภายหลังการรับทราบข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง