วันที่ 6 มิ.ย.2567 เวลา 12.50 น. ที่รัฐสภา เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส. ) และกองทัพธรรม ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายนิกร จำนง เลขานุการกมธ.ฯ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ

โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวว่า ตามที่คณะกมธ. ได้ดำเนินการพิจารณาแนวทางการออก พ.ร.บ. และมีความพยายามนำเอาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมเข้าด้วยนั้น เกิดจากแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของประชาชนในเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ถึงปัจจุบัน แต่เหตุการณ์ หรือพฤติกรรมแห่งการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของกลุ่มหรือบุคคลผู้กระทำความผิด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมือง และไม่ใช่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประชาชนด้วยกัน แต่เป็นการกระทำที่มุ่งหมายให้เกิดการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์จนเป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรมเสื่อมทราม เข้าลักษณะการล้มล้างการปกครอง

“เราเห็นว่า การพยายามผลักดันการนิรโทษกรรมโดยการเหมารวมฐานความผิดเหมือนกรณีที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามผลักดันเป็น พรบ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ยิ่งจะสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ในสังคมไทย” นายพิชิต กล่าว

แกนนำคปท. กล่าวต่อว่า เราจึงขอแสดงจุดยืนคือ 1.สนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรม ให้กับประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีเหตุจูงใจทางการเมืองทุกฝ่าย 2.คัดค้านแนวทางการนำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาบรรจุไว้ในพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เนื่องจากการกระทำความผิดนั้น ไม่ได้เป็นการแสดงออกทางการเมือง แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อมุ่งหมายตรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และ3.คัดค้านการนิรโทษกรรมที่จะเหมารวมความผิดในกรณีทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงการกระทำผิดอาญาต่อบุคคลร้ายแรง ถึงแม้จะเกิดขึ้นในระหว่างชุมนุมก็ตาม

ด้านนายนิกร กล่าวว่า กมธ.ฯได้รับเรื่องร้องเรียนมาแล้ว 3 คณะ ซึ่งทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการรวมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการนิรโทษกรรม แต่ทั้งนี้กมธ.ฯไม่ได้เป็นกมธ.ที่ยกร่างฯ แต่จะพูดคุยได้ในหลักการต่างๆ ซึ่งเข้าใจเรื่องที่มายื่นว่าเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว ขอย้ำว่า ทางกมธ.ฯ ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้ จึงจะแถลงในนามกมธ.ฯไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะรับเรื่องไว้เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของกมธ.ฯต่อไป แต่จะได้ข้อสรุปอย่างไรต้องรอฟังอีกครั้ง