วันที่ 6 มิ.ย.2567 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกลว่า หลังจากที่พรรคได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปแล้ว ลำดับถัดไปจะเป็นการขอยื่นการไต่สวนและบัญชีพยาน ซึ่งจะต้องยื่นหลังจากที่ส่งคำชี้แจงไปแล้ว โดยได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนบุคคลที่ไปเป็นพยานมีหลากหลาย มีรายชื่อใหม่ๆที่เกี่ยวกับประเด็นที่เราต่อสู้โดยเฉพาะ ดังนั้นหวังว่าศาลจะให้โอกาสในการที่จะไต่สวน  และพิจารณาข้อเท็จจริงกันใหม่อย่างเต็มที่ ส่วนจะใช้เวลานานในการไต่สวนหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในวันพุธที่ 12 มิ.ย.ก็จะทราบว่าศาลจะดำเนินการต่ออย่างไร จริงๆแล้วการที่จะเปิดไต่สวนหรือไม่ หรือเรียกพยานเพิ่มเติมกี่คน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลจะยื่นพยานไปกี่คน

เมื่อถามว่าแสดงว่าทางพรรคหวังจะให้เกมการพิจารณาครั้งนี้ยาว นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเกมยาวเกมสั้น แต่เกี่ยวกับประเด็นที่เราสู้ในแต่ละประเด็น ถ้าประเด็นไหนที่เราเห็นว่าจำเป็นต้องควรที่จะไต่สวนข้อเท็จจริงกันใหม่เราก็เสนอไป ซึ่งมีหลายประเด็น ดังนั้นพยานก็จะเยอะตามไปด้วย

เมื่อถามถึงคำเตือนของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.จะมีการเตือนสมาชิกในการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร รวมถึงการแถลงการณ์ของพรรคในวันที่ 9 มิ.ย. หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในวันที่ 9 มิ.ย.พรรคคงจะแถลงเหมือนเดิม เพราะเป็นเพียงแค่แถลงว่าพรรคก้าวไกลได้ต่อสู้ในประเด็นไหน อย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ได้มีอะไรใหม่มากกว่าที่อยู่ในคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอยู่แล้ว และคงไม่ไปกระทบกับกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนคิดว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปหลักตามกฎหมาย ตามหลักนิติรัฐ ตนคิดว่าศาลไม่ต้องกังวลอะไร

เมื่อถามย้ำว่ามองคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาอย่างไร หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฎหมาย อธิบายได้ พี่น้องประชาชนยอมรับได้ ตนคิดว่าไม่ต้องมีความกังวลอะไรว่าจะไปกระทบต่อการพิจารณาของศาลได้ ส่วนที่มีการมองว่าอาจเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองจนอาจเกิดความวุ่นวายได้นั้น คงไม่เกี่ยวกับการชี้แจงของพรรคก้าวไกล

ต่อข้อถามว่ามีการประเมินแฟนคลับของพรรคก้าวไกลอย่างไรเกี่ยวกับคดีนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า เท่าที่สัมผัสเวลาเราลงพื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะให้กำลังใจและไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรค และพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่เจอกันก็จะฝากว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะสนับสนุนพรรคก้าวไกลต่อไป ซึ่งจะเป็นการให้กำลังใจเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถามย้ำว่าหากท้ายที่สุดแล้วพรรคก้าวไกลถูกยุบจะเกิดกระแสลุกขึ้นมาต่อต้านคำวินิจฉัยหรือไม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า อย่าพึ่งคิดไปไกลเกินไป ขอให้รอดูคำวินิจฉัยก่อนดีกว่า

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สว.ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าจะมีการล้มรัฐบาล และยุบพรรคก้าวไกล  นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนติดตามกระแสข่าวไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงว่าตกลงแล้วมีจริงหรือไม่มีจริง เพราะบรรยากาศทางการเมืองแบบนี้โดยภาพรวมกระทบต่อแน่นอน และเสถียรภาพทางการเมือง เหมือนกัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ แม้เราเป็นฝ่ายค้านเราก็ห่วงบรรยากาศทางการเมืองแบบนี้ เพราะกระทบกับหลายๆฝ่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการที่จะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ถ้าเสถียรภาพทางการเมืองไม่แน่นอนก็จะกระทบอย่างแน่นอน

ต่อข้อถามว่าในปัจจัยที่เกิดขึ้นมองว่าจะทำให้เกมการเมืองเปลี่ยนขั้วได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เกมการเมืองจะพลิกผันหรือพลิกขั้วได้หรือไม่ ตนคิดว่าตอนนี้คนพูดกันมากคือสุดท้ายจะนำไปสู่การเปลี่ยนตัวนายกฯหรือไม่ ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นประเด็นหลัก ส่วนเรื่องพลิกขั้วในความหมายที่ว่าหากมีการเปลี่ยนตัวนายกฯในเร็วๆนี้ พรรคก้าวไกลมีโอกาสหรือไม่ที่จะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ตรงนี้ตนก็ต้องตอบย้ำอีกครั้งว่าคงเป็นไปไม่ได้

“ผมคิดว่าพรรคก้าวไกลเรามองไปข้างหน้า ไม่ได้คิดเรื่องผลประโยชน์เฉพาะหน้า และต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมทางการเมืองแบบนี้ต่อให้ตั้งรัฐบาลได้ก็อาจจะบริหารไม่ได้”

เมื่อถามว่าเมื่อถึงนาทีนั้นแล้วพรรคเพื่อไทยมาทาบทามอีกเราปฏิเสธแน่นอนใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า อย่างที่เรียนแล้ว และจริงๆอย่าไปพูดอย่างนั้นเลย เพราะพรรคเพื่อไทยเขาไม่เคยมาทาบทามอะไร