วันที่ 6 มิ.ย.67 ที่ศาลาว่าการกทม.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายต่อภัสร์ ยมนาค ผู้พัฒนาระบบ actai.co ร่วมกันแถลงกระบวนการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในศูนย์กีฬาฯ
นายชัชชาติ กล่าวว่า ภาพรวมกระบวนการจัดซื้อทั้งหมด ประกอบด้วย 1.การจัดทำร่างข้อบัญญัติงบประมาณโครงการต่าง ๆ 2.การนำข้อบัญญัติโครงการเข้าสภา กทม.เพื่อพิจารณาออกข้อบัญญัติ 3.เมื่อผ่านการออกข้อบัญญัติแล้ว จึงเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ปี 2560 เช่น การวางข้อกำหนดในการดำเนินงานตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง การร่างการประกวดราคา (TOR) การตรวจสอบราคากลาง 4.การตรวจรับงาน และ 5.การเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนตรวจสอบ
โดยกระบวนการจัดซื้อดังกล่าว อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายข้าราชการประจำ และ ฝ่ายสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งมีระบบตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจกันตามหน้าที่อย่างอิสระ โดยสิ่งสำคัญอยู่ที่การจัดทำข้อบัญญัติงบประมาณกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเข้าพิจารณาในสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) ก่อนสู่กระบวนการจัดทำ TOR จัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบโครงการต่าง ๆ อย่างเข้มข้น เช่น ความคุ้มค่า ความโปร่งใส เป็นต้น
ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวยอมรับว่ามีข้อบกพร่อง และไม่รัดกุม เนื่องจากข้อบัญญัติโครงการต่าง ๆ มีจำนวนมาก บางโครงการถูกตัดออกโดยสภากทม. จึงต้องมีการเสนอโครงการอื่นเข้าทดแทนตามปีงบประมาณ หรือที่เรียกว่างบแปร ซึ่งโครงการที่เพิ่มเข้าไป มีเวลาในการทำรายละเอียดของโครงการ ไม่มากเท่าการเขียนโครงการเพื่อเสนอของบประมาณประจำปี รวมถึง สภา กทม.มีเวลาตรวจสอบความเหมาะสมน้อยเช่นกัน ดังนั้น จึงต้องปรับปรุงการพิจารณาใน 2 ส่วนนี้ให้เข้มข้นมากขึ้น
ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้าง ปี 2560 ให้อำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบในการอนุมัติวงเงินแตกต่างกันไปตามลำดับตำแหน่ง ผู้บริหารกทม.ไม่สามารถเข้าไปสั่งการนอกเหนือ พ.ร.บ.กำหนดไว้ได้ และยืนยันฝ่ายบริหาร กทม.ไม่เคยสั่งการให้ทุจริต
“กรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบโดยคณะกรรมการป้องกันการทุจริตของกรุงเทพมหานคร โดยรองปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้กำกับดูแลขณะเดียวกัน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามากำกับดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่ 2 เดือนที่ผ่านมาแล้ว เราเอาจริงเอาจัง ไม่ยอมรับต่อการทำผิด ข้อมูลที่ออกมาเชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้ หากราคาเกินไป อธิบายไม่ได้ คงต้องมีคนรับผิดชอบ“ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายดังกล่าวคณะกรรมการได้ตรวจรับมาแล้ว จึงไม่อยากให้โทษผู้ว่าฯ คนเก่า ไม่เกี่ยวกับโครงการเก่า เป็นโครงการในสมัยนี้ มีบางโครงการที่ถูกตัด จึงต้องใส่โครงการใหม่เพิ่มตามงบประมาณ การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายมีมานานแล้ว หลายผู้ว่าฯ ราคาอาจจะอ้างอิงมาจากสมัยก่อน แต่การซื้ออยู่ในงบประมาณที่เราอนุมัติ ดังนั้นจึงไปโทษคนอื่นไม่ได้
ส่วนราคาเครื่องออกกำลังกายแพงหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ อาจเป็นการชี้นำ หากเกิดข้อสงสัยต้องมีการตรวจสอบและชี้แจง และจะต้องขยายการปรับปรุงกระบวนการต่างๆในระดับโครงสร้างเพื่อให้โครงการอื่นมีความโปร่งใส เนื่องจากปัญหาทุจริตมีมานานและฝังรากลึก
”ผมไม่กลัว เพราะว่าไม่เคยสั่งให้ทำอะไรผิด ไม่เคยบอกให้ทำอะไรไม่ดี เรายินดีให้ตรวจสอบ ผมยืนแก้ผ้าให้ดูได้เลย เพราะไม่เคยกลัว ผิดก็ต้องผิด เพราะไม่เคยสั่งให้ทำผิด เราไม่กลัวที่จะไปสอบทุกคน ฝ่ายบริหารยืนยันว่าไม่เคยไปสั่งให้ทำไม่ดี เราเน้นความโปร่งใส“ ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าว
นายศานนท์ กล่าวว่า เรื่องการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในศูนย์กีฬาฯ มีการจัดซื้อจัดจ้างมาตั้งแต่เดือน มี.ค.65 ก่อนที่ผู้บริหาร กทม.ชุดนี้จะเข้ามา ราคาประมาณ 600,000 บาท ตลอดจนปี 66 และ 67 มีการจัดซื้อ และมาเกิดเรื่องตามข่าวในปี 67 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวและโครงการอื่น ๆ มีรายละเอียดจำนวนมาก จำเป็นต้องช่วยกันตรวจสอบหลายฝ่าย โดยในปี 2568 กทม.มีแผนจัดทำร่างโครงการ Open Bangkok โดยร่วมกับ https://actai.co เพื่อสามารถตรวจสอบได้ทั่วถึง ให้ทุกโครงการสามารถตรวจสอบได้ เช่น หากพบการเสนอราคาต่ำเกินกว่า 40% ประชาชนสามารถร้องเรียนเพื่อตรวจสอบได้
ขณะที่นายต่อภัสร์ กล่าวว่า เว็บไซต์ actai.co เป็นการเชื่อมข้อมูลกับกรมบัญชีกลาง เพื่อเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่าง ๆ ทั้งหมดโดยละเอียด เช่น สัญญา งบประมาณ ประวัติผู้เสนอราคา สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ 5 ปี เมื่อประชาชนเข้าไปค้นหาและรับทราบข้อมมูลแล้วพบว่ามีความเสี่ยง สามารถนำข้อมูลไปร้องเรียนเพื่อการตรวจสอบต่อไปได้ โดยเว็บไซต์ดังกล่าว เป็นเพียงการนำเสนอ เปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนเท่านั้น ในอนาคตอาจมีการเชื่อมโยงข้อมูลทรัพย์สินนักการเมืองเพิ่มเติม
ด้านนางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบัน สตง.มีการสุ่มตรวจโครงการของ กทม. ซึ่ง กทม.ให้ข้อมูลทั้งหมด 9 โครงการที่มีการตรวจสอบซึ่งอยู่ในส่วนของสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) ซึ่ง กทม.พร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดยการป้องปรามการกระทำทุจริตได้เน้นย้ำตามนโยบายของผู้ว่าฯมาตลอด