วันที่ 5 มิ.ย.67 นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้รายงานถึงความคืบหน้ากรณีของการขนย้ายกากแคดเมียม ว่าการโยกย้ายในส่วนของจังหวัดเพื่อนำกลับยังจังหวัดตาก ซึ่งตอนนี้สามารถโยกย้ายขนออกพ้นพื้นที่กลับได้ไปกว่า 40 % จากมีปริมาณของกากที่มีรวมทั้งหมด 8,407 ตัน ในจำนวน 4 จุด ได้แก่ บ.เจแอนด์บีฯจำนวน 6,151 ตัน, โกดังเล็กของเจแอนด์บี 341 ตัน, บริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์ เทค จก. จำนวน 1,034 ตัน, โกดังในย่าน ต.คลองมะเดื่อ เขตอำเภอกระทุ่มแบน มีจำนวน 468 ตัน โดยล่าสุดขณะกำลังขนกลับไปตอนนี้ยังทำอยู่ที่ "เจแอนด์บี" โรงงานใหญ่ ซึ่งลำเลียงย้ายไปแล้วประมาณกว่า 20 วัน คิดเป็น 3,725.47 ตัน และยังคงเหลือทั้งหมดที่ยังไม่ได้ขน 4,681.53 ตัน
"สำหรับการดำเนินการที่ผ่านมาสามารถขนได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 186 ตันเศษ พร้อมกับต้องมีการปรับแผนในการทำงาน รวมถึงเรื่องของรถที่ใช้ขนลำเลียงกลับไปนั้นเนื่องจากประชาชนเกิดความกังวล เพราะเป็นช่วงที่ด้านท้ายรถเปิดเรียบ ดังนั้น จึงมีการเว้นวรรคเพื่อขอให้เปลี่ยนเป็นรถบรรทุกแบบชนิดตู้ปิดเพื่อรักษาความปลอดภัย ขณะที่คนขับรถเองก็ต้องเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ขนย้ายวัตถุอันตรายได้ด้วย ทั้งนี้โดยรถอยู่ตอนนี้แค่มี 2 ชุด ราวชุดละ 10 คัน แต่จะต้องช่วยดำเนินการใน 2 จังหวัด ก็คือระหว่าง จ.ชลบุรี และสมุทรสาคร ดังนั้นทำให้การขนย้านที่สมุทรสาครจะต้องทำแบบวันเว้นวัน ซึ่งจะต้องทำให้มีการขยายเวลาออกไปเป็น 2 เท่า โดยเบื้องต้นจากประมาณ 26 วันก็จะเป็น 52 วัน แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากทางจังหวัดชลบุรี สามารถขนกลับไปหมดแล้ว ก็จะต้องมารถนำรถช่วยระดมช่วยของ จ.สมุทรสาคร อันจะส่งผลให้สามารถนำออกไปได้ไวขึ้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนจำนวนกากแคดเมียมที่ยังเหลือในพื้นที่นั้นได้มีการขนเข้าในอาคารไว้ทั้งหมด ซึ่งด้านทางเจ้าของโรงงานจะขอดำเนินการซ้อนถุงบิ๊กแบ๊กรอไว้เนื่องจากทุกพื้นที่ได้มีคำสั่งอยู่ว่าเป็นเขตห้ามเข้า ดังนั้นทางด้านผู้ประกอบการก็จะต้องทำเรื่องขออนุญาตเข้าดำเนินการด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่มาร่วมตรวจสอบ ว่าการซ้อนถุงบิ๊กแบ๊กทำอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทุกกระบวนการก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบเพื่อดูถึงตอนขนย้ายและต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. มาร่วมกระบวนการควบคุมด้วย"