ตำรวจเมืองคอนหิ้วตัวแป้ง นาโหนดฝากขังศาล ก่อนนำขึ้นเครื่องบินเข้ากทม. หลังสอบปากคำผู้ต้องยังคงให้การปฏิเสธ ขอไปให้การชั้นศาล สอบสวนกลางส่งทีม"หนุมานคุมตัว"แป้ง นาโหนด" ส่งเรือนจำบางขวาง พร้อมคุมเข้ม อนุญาติและทนายเยี่ยมเท่านั้น

     
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.67 เวลา 08.00 น. พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช , พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ควบคุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือแป้ง นาโหนด ในชุดสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ หมวกสีขาว และมีผ้าปิดบังใบหน้ามิดชิด โดยนายเชาวลิตหรือแป้ง นาโหนด อารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสและได้หันมาพูดกันผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าว แต่ตำรวจรีบกันตัวออกไปจากห้องขังสภ.เมืองนครศรีธรรมราชอย่างรวดเร็ว เพื่อนำตัวไปขึ้นรถตู้ของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษชุดSWAT" หรือชุดราชเดชของตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องและอาวุธปืนครบมือนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชระยะทางประมาณ 3 กม. ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ก่อนรถเลี้ยวเข้าไปด้านในศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ศาลพิจารณาฝากขังศาล โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
  
   จากนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวนายเชาวลิตขึ้นรถคุมขังของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช มีประตู 2 ชั้น ปิดอย่างน่นหนาและมีการเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดคอปกสีส้มของกรมราชทัณฑ์ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ และสวมเสื้อเกราะทับนอกอีกชั้น รองเท้าแตะ โดยนำตัวนายเชาวลิตไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราชท่ามกลางขบวนคุ้มกันของชุดคอมมานโดราชทัณฑ์และตำรวจชุดต่างๆอาวุธปืนครบมือคุ้มกันไปตลอดเส้นทางมาขึ้นเครื่องที่อาคารสนามบินหลังเก่า นำขึ้นเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 09.30 น. บินไปยังสนามบิน บน.6 โดยมีกำลังตำรวจชุดหนุมานคุ้มกันอย่างแน่นหนาตลอดเส้นทาง
  
   พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การสอบสวนปากคำนายเชาวลิต เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 04.00 น.ของเช้าวันที่ 5 มิ.ย. รวมเป็นเวลา 9 ชม.เศษ ในการสอบสวนปากคำผู้ต้องหามีทนายความจำนวน 2 คน เข้าร่วมรับฟัง ซึ่งนายเชาวลิตให้การปฏิเสธทุกข้อหา และไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน ซึ่งเป็นไปตามสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ ทางตำรวจจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมตัวไว้สอบสวนต่อ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้หากเรายังต้องมีประเด็นในการสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์
   
  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่การสอบสวนปากคำเสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 04.00 น.เจ้าหน้าที่ได้ให้นายเชาวลิตกลับไปพักผ่อนในห้องคุมขังสภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีการขังเดี่ยวมีตำรวจ 5 นาย เฝ้าดูแลตลอดเวลาและคุมเข้มเรื่องหารการกินและมีวงจรปิดจับภาพความเคลื่อนไหวของนายแป้งตลอดเวลาด้วย เพื่อรอเวลานำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังศาลในเวลา 08.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมห้องขังแจ้งว่านายเชาวลิต ไม่ได้มีอาการเครียดแต่อย่างใด ยังคงมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แม้ว่าจะมีอาการอิดโรยจากการเดินทางและการสอบสวนปากคำของเจ้าหน้าที่นานร่วม 9 ชั่วโมง
   
  ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) , พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผกก.สสน.บก.ป. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ กก.สสน.บก.ป. รวม 2 นาย พร้อมรถสายตรวจ 1 คัน และชุดปฏิบัติการพิเศษ "หนุมาน กองปราบ" รวม 4 นาย ขึ้นรถสายตรวจ มุ่งหน้าไปที่ท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อทำภารกิจตามที่กรมราชทัณฑ์ได้ประสานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอกำลัง บช.ก. ให้จัดส่งรถสายตรวจกองปราบ ทั้งนำขบวนและปิดท้ายขบวน พร้อมจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ "หนุมาน กองปราบ" เข้าประกบ เพื่อนำตัวนายเชาวลิต ผู้ต้องหา เดินทางจากสนามบินทหารดอนเมือง คุมตัวไปยังเรือนจำบางขวาง เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางได้
 
    สำหรับภารกิจดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ในการคุมตัวนายเชาวลิตหลังถูกนำตัวขึ้นอากาศยานตำรวจ (บ.ตร.) จากนครศรีธรรมราช ก่อนมาลงที่ท่าอากาศยานทหารดอนเมือง หลังจากนั้นจะมีรถสายตรวจกองปราบฯ เป็นรถนำขบวน โดยมีรถยนต์ของกรมราชทัณฑ์เข้าไปรับตัวนายเชาวลิตลงจากเครื่องบิน ระหว่างทางก็จะมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ชุดหนุมาน กองปราบ คอยนั่งประกบมาในรถคุมตัวผู้ต้องหา ส่วนรถปิดท้ายขบวนก็จะเป็นรถสายตรวจกองปราบ ที่มีกำลังรวม 4 นาย พร้อมอาวุธหนักครบมือขับรถปิดท้าย ในการนำตัวผู้ต้องหาไปส่งยังจุดหมาย ที่คาดว่าน่าจะเป็นเรือนจำบางขวาง
  
   ที่หน้า เรือนจำกลางบางขวาง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่การรอรับตัวนายเชาวลิตผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์หลายคดีจากท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช มาที่ บก.น.6 และส่งต่อไป เรือนจำกลางบางขวาง โดยใช้กำลังชุดหนุมาน ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.)คุ้มกัน ทั้งนี้ เรือนจำกลางบางขวาง มีมาตรการเข้มงวดในการ คุมขัง ผู้กระทำผิด มีสถานพยาบาลภายในเรือนจำ คอยดูแลรักษาโรคตั้งแต่อาการป่วยเล็กน้อย ไปจนถึงโรคร้ายแรง
   
  กรณีเชาวลิตหรือ แป้ง นาโหนด เป็นนักโทษหลบหนี จะมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นเพราะเป็นนักโทษเคยหลบหนีขณะรับการรักษา ในตอนนั้นโทษสูงสุดคือ จำคุกตลอดชีวิต ฐานชิงตัวประกัน เมื่อปี 2562 ส่วนการเยี่ยม ทาง เรือนจำกลางบางขวางอนุญาตให้ทางญาติและทนายเข้าเยี่ยมได้ตามปกติ แต่ในระหว่างตัดสินโทษยังคงห้ามเข้าเยี่ยมตามกฎของเรือนจำ
    
 ส่วนกระแสข่าวว่าจะนำตัวนายเชาวลิตไปไว้ที่เรือนจำความมั่นคงสูงสุดอย่างเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี แหล่งข่าวในราชทัณฑ์ กล่าวว่า การฝากขังต้องเป็นไปตามความเหมาะสมเช่น เป็นนักโทษจากการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และมีประวัติหลบหนี การส่งมาขังที่ส่วนกลาง จะทำให้การตรวจสอบง่ายขึ้น แต่ถ้ายังมีพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำ อาจจะย้ายไปที่เรือนจำที่มีความมั่นคงสูงสุด