เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.67 ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร สั่งการให้ พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร, พ.ต.อ.พัฒนากร สูงนารถ ผกก.สภ.กุดชุม ,พ.ต.อ.ภูมิ ทองโพธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.ยโสธร, งานจราจร และ ฝ่ายสืบสวนสภ.กุดชุม ,กก.สส.ภ.จ.ยโสธร และฝ่ายปกครองอำเภอกุดชุม ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายนภาลัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 อยู่ ม.6 ต.นาโคก อ.สุวรรณคูนา จ.หนองบัวลำภู และนางแขก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี สัญชาติลาว ที่อยู่เมืองท่าแขก ประเทศลาว พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 40,041 เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Toyota สีเทา ทะเบียนบึงกาฬ จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 570,000 บาท และยึดรถตาม ประมวลกฎหมายยาเสพติด 2564 ,พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด 2564 มาตรา 11/1 (6) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง พาสปอร์ต บัตร Atm ,สมุดเงินฝากออมทรัพย์ พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย,เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย"โดยพฤติการณ์ในการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ด้วย
พ.ต.อ.พัฒนากร สูงนารถ ผกก.สภ.กุดชุม ได้สั่งให้ พ.ต.ท.กฤษฎา ประสมพันธ์ สวป.สภ.กุดชุม ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรและสิ่งผิดกฎหมาย หน้า สภ.กุดชุม ถนน วารีราชเดช ต.กุดชุม อ.กุดชุม จ.ยโสธร ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.ต่อมาเวลา 09.40 น.ขณะตั้งจุดตรวจได้มี นายนภาลัย (ผู้ต้องหาที่ 1) ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อ Toyota สีเทา จากทางด้าน อำเภอไทยเจริญ มุ่งหน้าเข้า จ.ยโสธร โดยมีนางแขก (ผู้ต้องหาที่ 2) นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.กุดชุม ใช้ไหวพริบการตรวจตรารถยนต์ต้องสงสัยและได้เรียกให้หยุดรถเห็นนายนภาลัย ท่าทางมีพิรุธ จึงได้ขอตรวจค้นตัวพบ ยาบ้า จำนวน 41 เม็ด อยู่ในถุงกางเกงด้านขวาของผู้ต้องหาที่1 และค้นเจอยาบ้าอีกประมาณ 40,000 เม็ด อยู่บริเวณช่องเก็บเครื่องมือแค๊ปที่นั่งหลังคนขับ จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมด้วยของกลางและผลการตรวจพบสารเสพติด จึงได้นำตัว ส่ง พงส.สภ.กุดชุม จ.ยโสธร ดำเนินคดี และอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม
นอกจากนี้พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร มอบหมายให้ พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร มอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 3,000 บาท อีกด้วย