ที่อาคารปฏิบัติธรรมราชธรรมเมธี วัดโค้งสนามเป้า ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี  พระราชธรรมเมธี เจ้าคณะ จ.จันทบุรี และเป็นพระครูจิตรการโกวิท เจ้าคณะ อ.เมือง เจ้าอาวาสวัดทรายงาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผวจ.จันทบุรี เป็นประธานฝ่ายฆารวาส ในพิธีรับมอบปัจจัยร่วมสมทบทุน โครงการบ้านสังฆประชานุเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2567  จำนวนทั้งสิ้น 2,3,10,000 บาท  
โดยมอบปัจจัยสมทบทุนสร้างบ้าน จำนวน 77 หลัง แบ่งเป็นหลังละ 30,000 บาท  นอกจากนั้น มีเงินสมทบจากมูลนิธิศาลหลักเมืองจันทบุรี โดยมี นายกลัาณรงค์ 
พงษ์เจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์และคณะกรรมศาลหลักเมือง เป็นผู้แทนมอบปัจจัยสมทบทุน หลังละ 5,000 บาท รวมปัจจัยจำนวน  385,000 บาท โดยมีนายอำเภอ 10 อำเภอ เป็นผู้รับมอบ

ปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นปีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางคณะสงฆ์ทั้ง 2 นิกาย จึงร่วมกับส่วนราชการทุกภาคส่วน องค์กรการกุศล ภาคเอกชน สื่อมวลชน ผู้นำชุมชนและประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันจัดทำโครงการบ้านสังฆประชานุเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษาครบ 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2567 โดยได้จัดทำบ้านสังฆประชานุเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้ชรา ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ผู้ประสบภัยพิบัติ และคนยากไร้ ให้มีที่อยู่อาศัย โดยมีกลุ่มเป้าหมายตำบลละ 1 หลัง ทั่วจังหวัด โดยได้บูรณาการทั้ง 10 อำเภอ 76 ตำบล จัดทำบ้าน 77 หลัง  

โดยกำหนดจัดพิธีมอบบ้านสังฆประชานุเคราะห์เฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมกันทุกตำบล ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นี้ ซึ่งพระราชธรรมเมธี เจ้าคณะ จ.จันทบุรี  ได้ปาฐกถาว่า โครงการบ้านสังฆประชานุเคราะห์  ถือว่ามีประโยชน์ ช่วยให้ผู้ที่ยากไร้ ประชาชนที่ขัดสนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง การให้ที่อยู่อาศัย เหมือนกับให้ทุกอย่าง ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าการให้ที่อยู่อาศัยถือว่าเป็นการให้ทุกอย่าง ทำให้ผู้รับสามารถที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างมีความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แล้วก็มีความสุขใจ อย่างน้อยเวลาฝนตกแดดออกก็ไม่ต้องพ้นทุกข์ทรมาน ในการที่ประสบภัยธรรมชาติ พร้อมทั้งชี้แจงถึงปัจจัยที่ร่วมสมทบทุนสร้างบ้านว่า เงินส่วนนี้ เป็นเงินรับบริจาคไม่ใช่เงินจากส่วนราชการ หากดำเนินการจัดสร้างบ้านแล้วเสร็จ เงินส่วนนี้ยังมีเหลือก็ขอให้เก็บเอาไว้เป็นกองทุนของอำเภอต่อไป