วันที่ 5 มิ.ย.2567 เวลา 14.45 น.ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตือนไม่ให้แสดงความเห็นชี้นำสังคมในคดีล้มล้างการปกครอง พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่าจะแถลงเปิดเผยแนวทางทางการต่อสู้คดีในวันที่ 9 มิ.ย.อยู่หรือไม่ว่า ยืนยันว่าจะยังจะแถลงในวันดังกล่าว ซึ่งเรายืนยันกับพี่น้องประชาชนและศาลรัฐธรรมนูญว่าการแถลงของเราในวันนั้นไม่ได้เป็นการกดดันศาล หรือชี้นำความคิดอะไร เป็นเพียงแค่การยืนยันและอธิบายกับพี่น้องประชาชน ที่อาจจะมีคำถามถึงแนวทางการต่อสู้คดีของพรรค รวมถึงเอกสารที่เราใช้ประกอบการแถลงก็ไม่ได้เป็นเอกสารลับอะไร แต่เป็นเอกสารที่เรายื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ
“ยืนยันว่าเดินหน้าต่อ และอยากให้ความสบายใจกับพี่น้องประชาชน และศาลรัฐธรรมนูญว่าเราไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการจะไปกดดัน หรือชี้นำสังคมในทางใดทางหนึ่ง” นายพริษฐ์ กล่าว
เมื่อถามถึงรูปแบบในการต่อสู้คดีเป็นอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทุกคนจะได้รู้พร้อมกันในวันที่ 9 มิ.ย. นี้ ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีดังกล่าวในวันที่ 12 มิ.ย. คงไม่ได้เป็นการอ่านคำวินิจฉัยในวันดังกล่าวเลย เป็นเพียงการนัดประชุมเพื่อถกกันว่าแนวทางในการวินิจฉัยคดีจะเป็นเช่นไร ดังนั้นในวันที่ 12 มิ.ย. เราจะเห็นถึงความชัดเจนมากขึ้นถึงขั้นตอนและกรอบเวลา อย่างที่พรรคก้าวไกลเคยศึกษาไว้ ว่าเราอยากจะเห็นกระบวนการและวิธีไต่สวนข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม
“วันที่ 12 มิ.ย. ก็จะเห็นคำตอบและแนวทางที่ชัดเจนของศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มขึ้นว่าตกลงจะมีแนวทางไต่สวนหรือไม่อย่างไร กรอบระยะเวลาจะเป็นเช่นไร”โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าว
เมื่อถามว่าต้องมีการเตือนสมาชิกในเรื่องการแสดงความคิดเห็นเพื่อไม่ให้กระทบศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทุกคนในพรรคยืนตามแนวทางที่ตนได้กล่าวไป จะไม่มีการแสดงความเห็นที่กระทบต่อศาล
เมื่อถามถึงกรณีที่ สว. ออกมาพูดว่าพูดว่าเป็นขบวนการที่จะล้มกระดานทั้งยุบพรรคก้าวไกลและล้มรัฐบาลด้วย นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องแยกเป็นกรณีไป กรณีของพรรคก้าวไกลเราจะทำเต็มที่ในการต่อสู้คดี และมองว่าผลลัพธ์ของคดีนี้ ไม่ได้ส่งผลแค่ชะตากรรมของพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นคดีที่จะสร้างบรรทัดฐานการเมืองไทยในอนาคตด้วยเช่นกัน เราก็จะทำอย่างเต็มที่ในการต่อสู่คดีและปกป้องพรรค เราจะต้องสู้และหวังถึงสถานการณ์หรือฉากทัศน์ที่ดีที่สุด ว่าเราก็จะต้องมีแผนรับมือกับฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดเช่นกัน
เมื่อถามถึงกรณีการเตรียมพรรคสำรอง และเกรงว่าจะมีงูเห่าเกิดขึ้นหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป้าหมายเฉพาะหน้าตอนนี้คือการต่อสู้เพื่อปกป้องพรรคก้าวไกล และบุคลากรของพรรค ดังนั้นเรามีแผนรองรับทุกฉากทัศน์ ในส่วนของข่าวลือหรือเรื่องงูเห่าก็ดี ตนยืนยันว่าเท่าที่เห็นรายงานในข่าวก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือ เป็นแค่กระแส ไม่มีข้อมูลอะไรมายืนยัน ดังนั้นยืนยันคำเดิม เชื่อมั่นว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพรรค พวกเราในพรรคก้าวไกลจะเดินหน้าต่ออย่างเป็นเอกภาพ
ตนเชื่อว่าเพื่อนๆ ในพรรครู้ดี และจำได้ดีว่าในวันที่แต่ละคนเดินเข้ามาในพรรคเพื่อเป็นสมาชิก และยื่นใบสมัครในการลงเลือกตั้ง ทุกคนมีอุดมการณ์แบบไหน มีความฝัน ที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในประเทศนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพรรคก้าวไกล อุดมการณ์และความฝันคือเป้าหมายที่เราจะเดินหน้าต่อร่วมกัน และเชื่อว่าเพื่อนๆ ในพรรครู้ดีถึงความคาดหวังที่พี่น้องประชาชนมอบให้กับเราผ่านคูหาการเลือกตั้ง เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา เราทุกคนก็จะทำงานด้วยความซื่อตรงให้สมกับความคาดหวังที่ประชาชนให้มา