วันที่ 5 มิ.ย. 2567 เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและจำแนกการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวถึงเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีหลายคดีรุมเร้ารัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะนำไปสู่การเปลี่ยนขั้ว สลับข้างในอนาคต หรือมีเหตุต้องลงถนน หรือไม่ว่า คิดว่าจุดเปลี่ยนอยู่ที่คดีของนายเศรษฐา ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในรูปแบบไหน ถ้าออกมาในลักษณะที่นายเศรษฐาได้ไปต่อ เรื่องนี้ก็จะบรรเทาเบาบางสถานการณ์ที่ตึงเครียดให้กับรัฐบาลพอสมควร แต่ถ้าออกมาในลักษณะไม่ได้ไปต่อ สิ่งที่จะเกิดผลกระทบอันแรก คือคณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งก็จะนำมาสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งแคนดิเดตที่มีอยู่ ณ วันนี้เพียงไม่กี่ท่านเท่านั้น ถ้าไม่มีการยุบสภาฯ เกิดขึ้นเสียก่อน
“เมื่อแคนดิเดตนายกฯ เหลือเพียงไม่กี่ท่าน โอกาสจะเกิดการสลับขั้ว ย้ายขั้ว ข้ามขั้ว มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมด และก็อาจนำไปสู่ผลกระทบเสถียรภาพทางการเมืองก็ได้ ซึ่งคือตัวชี้วัดแรก ที่จะต้องดูในคดีของนายเศรษฐา ว่าจะชี้ทิศทางเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไร ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีของนายทักษิณ หรือการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลไม่ได้เป็นประเด็นหลัก ส่งผลในระยะสั้นมากนัก” นายยุทธพร กล่าว