วันนี้(5 มิ.ย. 67) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ นําแม่และน้องสาวของนายพิชิต หรือเสี่ยต้น อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อยื่นคําร้องขอศาลคัดค้านการประกันตัว น.ส.วรรณิภา หรือเจ๊มด และพวกร่วม 3 คน ในคดี “จ้างวานลอบฆ่าเสี่ยต้น” 

ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้ตนพาแม่และน้องสาวของเสี่ยต้นมายื่นคําร้องคัดค้านหรือปล่อยตัวชั่วคราวจําเลยทั้ง 3 คน โดยมีผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งให้การยอมรับสารภาพทั้งหมดรวมถึงซักทอดไปยัง “เจ๊มด” ว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่า ประกอบกับพยานหลักฐานต่างๆสามารถทําให้เชื่อว่า “เจ๊มด” ภรรยาของเสี่ยต้นนั้นกระทําความผิดจริง เกรงว่าหากปล่อยไปอาจจะหลบหนีหรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและที่สําคัญคือผู้ต้องหาที่เป็นมือปืนยังอยู่ระหว่างการหลบหนี รวมถึงครอบครัวของเสี่ยต้นยังถูกเบอร์แปลกๆโทรเข้ามาก่อกวนอีกด้วย

ส่วนกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “เสี่ยต้น” ที่ จ.มหาสารคาม มีความคืบหน้าประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ โดยพบว่าหลังศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ทําให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มให้การที่เป็นประโยชน์  แม้ศพจะถูกเผาไปแล้ว ก็สามารถใช้พยานหลักฐานอื่นๆมาประกอบในสํานวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มได้ เหมือนกับคดี “แอมไซยาไนด์” แม้จะมีการเผาร่างผู้เสียชีวิตไปแล้วก็ยังมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดผู้กระทําผิดเพิ่มได้เช่นกัน

ด้านน้องสาวเสี่ยต้น ยอมรับว่า ยังมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเนื่องจากยังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย ซึ่งเป็นมือปืนที่อยู่ระหว่างการหลบหนี อีกทั้งเมื่อช่วงประมาณวันที่ 27-28 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีเบอร์ปริศนาโทรมาปั่นป่วนหลวงพ่อ ซึ่งเป็นบิดาของเสี่ยต้นในลักษณะของการก่อกวน เบื้องต้นทางครอบครัวได้บล็อคเบอร์ดังกล่าวและแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ “เจ๊มด“ ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่ยอมให้การในชั้นสอบสวนนั้นจะเป็นการพลิกคดีในชั้นศาลหรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่าการที่ภรรยาของเสี่ยต้นไม่ให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน ทางกฎหมายถือเป็นข้อพิรุธ เนื่องจากหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่า ก็ควรจะต้องรีบให้การกับพนักงานสอบสวนโดยเร็ว เพราะการอ้างว่าจะฝห้การในชั้นศาลเท่านั้น อาจจะทำให้ศาลยกประโยชน์ให้แก่โจทก์และไม่รับฟังคำให้การของจำเลย ตนจึงขอขอบคุณภรรยาของเสี่ยต้นที่ไม่ให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน เพราะก่อให้เกิดประโยชน์ทางคดีแก่ฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ทนายเดชา ยังเปิดเผยอีกว่า ตนทราบข่าวว่าทนายความของภรรยาเสี่ยต้นเตรียมยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาลเป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย ตนไม่ทราบแต่เนื่องจากผู้ต้องหาอีก 2 ราย ให้การรับสารภาพ จึงคาดว่า ศาลอาจจะมีดุลพินิจไม่ให้ประกันตัว แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลจะพิจารณา