วันที่ 4 มิ.ย.67 นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย   เลขานุการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตรวจความพร้อมชุดปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน รับสถานการณ์วาตภัย อุทกภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม   หลังจากกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แจ้งว่ากรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ลักษณะอากาศช่วงฤดูฝนของประเทศไทย เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 67 และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม โดยในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนจะเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านประเทศไทยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันน้ำป้าไหลหลาก รวมทั้งน้ำลันตลิ่งได้นั้น ประกอบกับลักษณะทางภูมิศาสตร์จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขาสูงสลับชับซ้อนจึงอาจก่อให้เกิดเหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้      

นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบมาก และในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่จะถึงนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านจนทำให้มีปริมาณฝนตกหนักถึงหนักมาก จังหวัดแม่ฮ่องสอนอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ ประกอบกับหลายพื้นที่ของจังหวัดเป็นพื้นที่เปราะบางและอ่อนไหว พื้นที่ที่มีชุมชนติดพื้นที่สูงชัน พื้นที่ชุมชนซึ่งติดริมน้ำหรือลำห้วยจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งการเฝ้าระวังการป้องกัน การเผชิญเหตุ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อลดผลกระทบจากเหตุสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน  จึงได้บูรณาการกับส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรัฐวิสาหกิจ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) มูลนิธิฯ/องค์กรการกุศล ประชาชนจิตอาสา และภาคีเครือข่าย  ตรวจความพร้อมชุดปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับสถานการณ์วาตภัย อุทกภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม   เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล  ยุทโธปกรณ์ ให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างปลอดภัยและทันท่วงที รวมทั้งมีการวิเคราะห์สถานการณ์ของพื้นที่ บูรณาการวางแผน และประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน