วันที่ 4 มิ.ย.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการนิรโทษกรรม ในคดี ม.112 ว่า แล้วแต่กระบวนการทางสังคมจะพิจารณา ที่ต้องรับฟังทุกกลุ่ม และจะผ่านเข้าสู่ระบบของรัฐสภา ยืนยันว่า จะต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ เพราะรัฐสภามาจากตัวแทนของประชาชน ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็จะมีการพูดคุยกันภายในพรรค ต้องฟังเสียงคนในพรรคเช่นกัน

เมื่อถามว่า จะต้องฟังเสียงคนในกองทัพด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า จะต้องฟังเสียงจากทุกฝ่าย

เมื่อถามว่า การนิรโทษกรรมจะต้องมีให้ผู้ที่สำนึกผิด แต่ผู้ต้องคดีบางคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก นายสุทิน กล่าวว่า ก็ต้องมีการแยกแยะกลุ่มบุคคล ว่าควรหรือไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม เพราะมีเกณฑ์ชี้วัดอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า กลุ่มคนที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรมใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มีกระบวนการคัดแยก

เมื่อถามถึงกรณีที่มีความกังวลว่าหากมีการนิรโทษกรรมจะนำไปสู่การยึดอำนาจ นายสุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้มองไปขนาดนั้น มันไม่ง่ายหรอก และยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเองก็จะดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง เพราะในอดีตเราเคยมีบทเรียน และให้ฟังเสียงของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งประเมินทุกอย่างทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ทั้งนี้ การนิรโทษกรรมต้องดูประเภทการทำความผิด สิ่งไหนที่สังคมรับได้ และความผิดไหนที่สังคมรับไม่ได้ เราก็ต้องแยกแยะไปตามนั้น