เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผลโพลสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ออกมาระบุว่ากลุ่มธุรกิจ SME สนใจเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตน้อยลงเนื่องจากกังวลเรื่องการใช้สิทธิเบิกจ่าย ว่า จุดประสงค์แรกของการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็เพื่อสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ SME ซึ่งก็สอดคล้องตั้งแต่แรกที่เราเห็นว่าธุรกิจภาคนี้มีปัญหา โดยเฉพาะ SME รายย่อย เพราะยังขาดในเรื่องกำลังซื้อ นี่จึงเป็นข้อเรียกร้องของ SME ว่าอยากให้มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินลักษณะนี้ ดังนั้นการมีเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบในระยะเวลาที่กระชับ และกระจายไปหลายพื้นที่ ก็จะเป็นผลดีต่อ SME ซึ่งก็สอดคล้องกันระหว่างแนวคิดของรัฐบาลและข้อเรียกร้องจาก SME
เมื่อถามว่า เกณฑ์ในการลงทะเบียนร้านค้าอาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อกลุ่มธุรกิจรายเล็ก ทางรัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เกณฑ์การลงทะเบียนของรัฐบาลขณะนี้ยังไม่ออกมา ยังอยู่ในกระบวนการที่คณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในการหาเงื่อนไขที่เหมาะสม และง่ายที่สุดต่อกลุ่มธุรกิจรายเล็ก ซึ่งเป็นข้อกังวลแรกของเราอยู่แล้ว ที่เราอยากให้พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ตามตลาด เข้าสู่โครงการได้ง่ายที่สุด
นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า เรายืนยันว่าจุดประสงค์แรกของโครงการนี้ คือการนำเงินลงไปในกลุ่มตลาด ให้ประชาชนได้ใช้จ่ายกระจายเม็ดเงินในตลาดใกล้บ้าน ซึ่งก็จะมีสิ่งที่เราต้องรักษาสมดุล ระหว่างการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ง่าย และมีจำนวนร้านค้าเพียงพอ ซึ่งเหตุผลที่เราต้องรวมร้านสะดวกซื้อเข้ามาด้วย ก็เพื่อให้ประขาขนเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเราก็อยากให้เม็ดเงินกระจายในตลาดมากกว่า แต่หากลงในตลาดแล้วมีร้านสะดวกซื้อเข้ามาร่วม ก็เป็นความยากของประชาชนในการใช้งาน นี่คือการรักษาสมดุลระหว่างการเข้าถึงง่ายของประชาชน และประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลจะประชุมเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทะเบียนร้านค้าในช่วงใด นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ทางคณะอนุกรรมการกำกับดูแลฯ ได้มีการประชุมทุกสัปดาห์ ซึ่งก็มีให้เราต้องถกกันมากมาย เช่น ร้านค้าที่ลงทะเบียนและได้รับเงินมาแล้วแต่เจ้าของร้านเสียชีวิตระหว่างเข้าร่วมโครงการ เงินจำนวนนั้นจะอยู่ที่ใคร จะใช้กฎหมายข้อใดในการเข้ามาดูแล ส่วนการประชุมในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าวหรือไม่นั้น ขณะนี้เรากำลังจะประชุมในเรื่อง การเชื่อมต่อในระบบ Open loop เพื่อที่จะให้ระบบธนาคารหรือ แอปพลิเคชั่นธุรกิจกระเป๋าเงินต่างๆ เชื่อมต่อกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมีความเข้าใจตรงกันก่อน ระหว่างตัวโครงการและระบบที่จะมาเชื่อมต่อข้อมูลกับเรา ดังนั้น จึงต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในการเชื่อมต่อกันเชิงเทคนิคก่อน