เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.น. สนธิกำลังร่วม บก.สส.ภ.4 เข้าทำการจับกุม น.ส.วรรณิภา หรือ มด ภรรยาของนายพิชิต หรือ "เสี่ยต้น" อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนสปาและนวดแผนไทย ได้ที่บ้านพัก ย่านรามอินทรา โดยเบื้องต้น น.ส.วรรณิภา สารภาพว่า ทำหน้าที่จ้างวานพยายามฆ่า นายพิชิตสาเหตุเนื่องจากโกรธเคืองเพราะถูกสามีนอกใจ จนกระทั่งตำรวจขยายผลพบว่ากลุ่มมือปืนมีด้วยกันถึง 3 คน ประกอบด้วย นายณัฐพล หรือท๊อป มือปืนยิงเสี่ยต้น ,นายสาโรจน์ คนจัดหาอาวุธ และเอาอาวุธไปวางทิ้งไว้ ซึ่งจับตัวได้แล้ว และ นายวีรภัทร อายุ 25 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งจับกุมตัวได้แล้ว ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่นมและสื่อมวลชน ได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ม.6 บ.โนนอุดม ต.นาหว้า อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนายณัฐพล หรือท๊อป ที่ถูกระบุว่าเป็นมือปืนในการยิงเสี่ยต้น โดยพบว่า บ้านปิดร้างมานานประตูถูกล๊อคไว้ โดยบ้านติดกันเป็นลุงและป้าของนายท๊อป
ซึ่งจากการสอบถามป้า ของนายท๊อป (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมานายท๊อปได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งก็ไม่เห็นความปกติอะไร นายท๊อปยังออกไปหากบหาเขียดมาให้กิน จากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ เพราะได้ยินมาว่าได้งานทำที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ทราบว่าทำงานอะไร
"ตั้งแต่เด็กทางลุงกับป้าก็ได้ส่งเสียหลานชายคนนี้ เพราะพ่อแม่ได้แยกทางกันและทิ้งบ้านหลังนี้ไว้ นานๆนายท๊อป และครอบครัวฝ่ายแม่กลับมาที่บ้านหลังดังกล่าว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่อยากจะเชื่อว่าหลานลงมือก่อเหตุจริงเพราะที่ผ่านตั้งแต่เด็ก นายท๊อปเป็นเด็กที่ชอบเก็บตัวที่บ้านไม่มีนิสัยนักเลงหัวไม้ที่จะไปหาเรื่องคน ต่างกับวัยรุ่นที่อายุไล่เลี่ยกัน แม้แต่ที่หมู่บ้านจะมีมหรสพ นายท๊อปก็เลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่าออกไปสนุกกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน ซึ่งทุกคนต้องตกใจจากข่าวที่เกิดขึ้น และยังไม่อยากจะเชื่อว่านายท๊อปจะเป็นมือปืนฆ่าคนได้"