ปธ.กกต.โต้ สมชาย หลังเปิดโพยฮั้วเลือก สว. เชื่อไม่เป็นความจริง พร้อมสั่งให้ตรวจสอบแล้ว มั่นใจกระบวนการเลือกผู้แทนสภาสูงเป็นไปตามไทม์ไลน์  ด้านแสวง ปลุกเจ้าหน้าที่กกต.เตรียมรับแรงเสียดทาน จัดเลือก สว.  มั่นใจรับมือได้ แฉกลุ่มหวัง เลื่อน-ล้ม-เลือก เสี่ยงไม่เกิดผลดีต่อบ้านเมือง  ขณะที่'กมธ.' เชิญ กกต.'แจงปมโพยก๊วน-ฮั้ว 

     ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายสมชาย แสวงการ สว. ออกมาระบุถึงโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. มีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คน ว่า คงไม่จริงมั้ง ขณะนี้สำนักงานกำลังตรวจสอบอยู่ ยังไม่รายงานมายังตน ส่วนคนที่ออกมาเปิดเผยจะมีความผิดหรือไม่  ต้องดูข้อเท็จจริง ไม่สามารถตอบทันทีได้ การพิจารณาของ กกต. ต้องเข้าคณะที่ประชุม
    
 นายอิทธิพร กล่าวว่า ในเรื่องของความเรียบร้อยในการเลือก สว. ในระดับอำเภอ มีความพร้อมมาก กำชับการดำเนินการตลอดเวลา หนังสือสั่งการมีออกมาเรื่อยๆ และไม่มีเรื่องอะไรต้องกังวล เพียงแต่เราต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด ส่วนกรณีที่บางอำเภอไม่มีผู้สมัครนั้น กฎหมายเขียนระบุไว้ชัดเจนว่าต้องทำอย่างไรบ้าง และยืนยันการคัดเลือก สว. เป็นไปตามไทม์ไลน์ ข้อร้องเรียนต่างๆ เราก็ดำเนินการตามกฏหมาย เรื่องคุณสมบัติก็ไปร้องที่ศาลฎีกา ยืนยันไม่มีปัญหา ทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์
    
 ส่วนกรณีมีคนออกมาข่มขู่ หากการเลือกสว. ส่อทุจริตให้เลื่อนออกไปก่อนนั้น ต้องดูข้อกฎหมาย หากพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำผิดไม่จำเป็นต้องสอยทีหลัง ยืนยันเราต้องดูข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทุกเรื่อง และต้องดูว่าที่สุดแล้วจะมีคำร้องอะไรบ้าง
    
 ด้าน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ภายในของสำนักงาน กกต. ถึงพนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคน ว่า พร้อมรับมือแรงเสียดทาน พี่น้องชาว กกต. ครับ อีก 6 วัน ก็จะถึงวันเลือก สว. ระดับอำเภอแล้ว จากนี้ไปอาจมีแรงเสียดทานที่จะเกิดกับการทำงานของเรามากขึ้น จะหนักจะเบาก็ขึ้นกับสถานการณ์วันต่อวันจากนี้ไป
     
เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์และความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา รวมทั้งการรับข้อมูลจากหลายด้าน มีสัญญาณมาโดยตลอดว่า นับแต่มีพระราชกฤษฎีกาเลือก สว. ก็จะมีแรงเสียดทานเข้มข้นมากขึ้นตลอดมา ซึ่งแรงเสียดทานอาจมีรูปแบบเป็นไปตามลักษณะและพฤติการณ์การแสดงออกของกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยมีแรงจูงใจทางการเมืองทั้งที่ไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง พอจะจำแนกได้เป็น รูปแบบที่ 1 เลื่อนหรือลาก การเลือก สว.ออกไป รูปแบบที่ 2 ล้ม การเลือก สว. รูปแบบที่ 3 เลือก แต่กดดันให้ได้ผลตามเป้าหมายที่หวังไว้ แต่ไม่ว่าจะรูปแบบใด ก็ขอให้เป็นแค่การคาดการณ์ อย่าให้เกิดขึ้นจริง เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง ย่อมไม่เกิดผลดีกับบ้านเมืองอย่างแน่นอน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากจะเกิดขึ้นจริงก็น่าจะเป็นเพียงความต้องการของคนบางกลุ่มเท่านั้น ผมว่าเรารับมือเรื่องนี้ได้อย่างมีชั้นเชิง ถ้ามีคนคิดจะทำแบบนี้จริงๆ เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นเพราะบ้านเมืองจะเกิดความเสียหาย ผมว่าเรารับมือเรื่องแบบนี้ได้อย่างสบาย นิ่ง มีสติ ใช้ปัญญา มีเป้าหมายด้วยหวังดีต่อชาติบ้านเมือง เราต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอนครับ ช่วยส่งกำลังใจต่อไปถึงน้องๆ พนักงานทุกคนด้วย สำนักงานเองก็จะมอนิเตอร์เรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นร่มกันฝนและพายุให้แก่พนักงานทุกคน ขอให้ทำงานเพื่อชาติด้วยความสบายใจครับ เลขากกต. 
    
 ขณะที่ สำนักงาน กกต. ระบุถึงการกำหนดสถานที่เลือกสว. ว่า ตามที่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 กำหนดให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอประกาศกำหนดสถานที่เลือกในเขตอำเภอภายในวันที่ 2 มิ.ย.67 และผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดประกาศกำหนดสถานที่เลือกในเขตจังหวัด ภายในวันที่ 9 มิ.ย.67 ซึ่งสถานที่เลือกดังกล่าวต้องเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางไปได้โดยสะดวก มีขนาดเหมาะสมและเพียงพอต่อการดำเนินการเลือก และควรกำหนดสถานที่ที่เป็นอาคารที่มีแสงสว่างเพียงพอ พร้อมทั้งให้มีป้ายหรือเครื่องหมายอื่นใด เพื่อแสดงกลุ่มที่ดำเนินการเลือกและสายที่ดำเนินการเลือก รวมทั้งขอบเขตบริเวณของสถานที่เลือกไว้ด้วย ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความสะดวกในการลงคะแนนของคนพิการ หรือทุพพลภาพ ผู้สูงอายุหรือผู้ประสบปัญหาในการใช้สิทธิเลือก และสามารถควบคุมดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยได้ ควรเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถมองเห็นและสังเกตการณ์ในกระบวนการเลือกได้
    
 ทั้งนี้ ให้ปิดประกาศไว้ที่ว่าการอำเภอ หรือศาลากลางจังหวัดแล้วแต่กรณี สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด สถานที่เลือกในวันเลือก และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ซึ่งประชาชนสามารถติดตามประกาศกำหนดสถานที่เลือกทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัดได้จากช่องทางดังกล่าว และร่วมสังเกตการณ์ในกระบวนการเลือกระดับอำเภอ วันที่ 9 มิ.ย.67 และการเลือกระดับจังหวัด วันที่ 16 มิ.ย.67 สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกกำหนด
    
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา ที่มี นายกล้านรงค์ จันทิก สว. เป็นประธานกมธ. ได้นัดประชุม วันที่ 6 มิ.ย.นี้ โดยมีวาระพิจารณากระบวนการเลือกสว. โดยเชิญเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าร่วมประชุม
    
 นายกษิดิศ อาชวคุณ สว. ฐานะโฆษก กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ว่า มีประเด็นที่ต้องการสะท้อนไปยัง กกต. เพราะมีประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สะท้อนปัญหาการเลือกสว. ในหลายประเด็น รวมถึงกติกา กฎระเบียบของกกต. ทั้งนี้จากการลงพื้นที่หลายจังหวัด ทั้งนครนายก ชลบุรี และจังหวัดภาคใต้ ได้รับทราบข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ตามที่ปรากฎเป็นข่าว ทั้งการฮั้ว การส่งตัวแทนเพื่อให้โหวตพวกเดียวกัน ทำให้คนที่มีศักยภาพและตั้งใจจะเป็น สว. อาจไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่ เมื่อถามว่า ขณะนี้มีประเด็นเรื่องโพยก๊วนฮั้วสว. จะต้องหารือกับเลขากกต. อย่างไร นายกษิดิศ กล่าวว่า ต้องสอบถามกกต.ว่าจะจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้กมธ.และอนุกมธ.ที่ติดตามเรื่องดังกล่าวได้ติดตามปัญหาทุกสัปดาห์และสะท้อนในประเด็นข้อห่วงใยให้กกต. ไปพิจารณาดำเนินการ
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อเสนอแนะให้ กกต.ทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดกระบวนการล้มกระดานเลือกสว. นายกษิดิศ กล่าวว่า ตนให้ความเห็นว่า ต้องมีมาตรการป้องกัน โดยให้ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมทำงานกับกกต. เป็นหูเป็นตา ฐานะเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ มีข้อมูล รวมถึงวางมาตรการป้องปราม การทุจริตก่อนที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้น เพราะการเลือกสว. เป็นเหมือนปิรามิด หากปล่อยให้ไปสู่จุดสูงสุด ขณะที่ฐานได้คนไม่บริสุทธิ์แล้ว อาจได้สว.ที่ไม่เป็นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
   
  นายกษิดิศ กล่าวว่า สว.ไม่มีอำนาจไปสั่ง แต่ได้แสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ เพราะได้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนการล้มนั้น คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก กกต.ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะกกต.ไม่ได้ทำงานในหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งที่มีผู้ให้คำแนะนำ ที่เป็นประโยชน์ แต่กกต.ละเลย กกต.ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพน้อย ดังนั้นหากมีกระบวนการล้มจากที่ฟังกระแส และข้อมูลต่างๆ ทั่วประเทศ จะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้น กลายเป็นความล้มเหลวที่จะได้สว.ปฏิบัติหน้าที่ตามเจตนาของรัฐธรรมนูญ
    
 เมื่อถามถึงประเด็นที่ว่าที่ผู้สมัครสว.นครศรีธรรมราชถูกตัดสิทธิและเปิดเผยว่าถูกว่าจ้างให้ลงสมัคร โดยได้ค่าจ้าง 2,500 บาท ถือเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่ นายกษิดิศ กล่าวว่า ไม่ได้มีเฉพาะที่ จ.นครศรีธรรมราช เพราะเครือข่ายนี้เขาเชื่อมโยงกันหมด และมีทั่วไปมีบางพื้นที่เขาให้เงินมากกว่านั้น หลักหมื่นบาท และข้อเสนอต่างๆ ให้กับผู้ที่เข้าไปช่วย ถือเป็นสัญญาณอันตรายมากที่สุด
    
 ทั้งนี้ ตนพร้อมบอกข้อมูลกับ กกต. ในทางลับเพื่อให้ กกต.แก้ไขให้ทันเวลาก่อนจะถึงเวลาเลือกระดับอำเภอ ส่วนผู้ที่ให้ข้อมูลมา หากเขาอยากให้ข้อมูลโดยกับกกต.จะติดต่อให้เขามาสะท้อนให้กกต. ฟังว่ามีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลจำนวนมาก แต่มีบางคนที่กลัวไม่กล้าเปิดตัวก็มี