เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าพรรคเพื่อไทย : ความน่าเชื่อถือล้มละลาย
ผมเข้าใจเพื่อน สส. หลายคนในพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาแสดงการไม่ยอมรับนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมา สส. พรรคเพื่อไทยในสมัยเป็นฝ่ายค้าน ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายวิษณุ เครืองาม ในหลายประเด็นอย่างรุนแรง เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชิญนายวิษณุมาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ก็น้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ออก เกรงใจผู้ใหญ่ในพรรค บางคนจึงเกิดอาการจุกอกได้แต่ทำใจยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น
เมื่อนายเศรษฐาไปอ้อนวอนทาบทามนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย มีบทบาทเทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายสำเร็จแล้ว หลายคนในพรรคเพื่อไทยบอกว่า ไม่รู้จะตอบคำถามกับสังคมอย่างไร เป็นเหมือนกับการเล่นเกม หลอกลวง ตบตาประชาชน และไม่แคร์ความรู้สึกของสังคมเลย ซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์ หักหลังประชาชนมาแล้ว จนถูกตั้งฉายาว่าเพื่อไทยการละคร และนโยบายที่ประกาศบนเวทีหาเสียง ก็ไม่สามารถทำได้ตามที่โฆษณาหาเสียงไว้ในหลายอย่าง เช่น
1.การไม่จับมือกับ 3 ป. คนทำรัฐประหารร่วมรัฐบาล
2.จะปิดสวิตช์ สว. แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยภายในหนึ่งปี
3.แจกเงินดิจิทัลวอลแล็ตให้กับคนไทย อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาททุกคน
4.ค่าไฟฟ้าครัวเรือนที่แพงอยู่ จะถูกลงทันที
5.ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด จะไม่มีการขึ้นราคา
6.ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะเติมให้ครอบครัวละ 20,000 บาททันที
7.จะขึ้นค่าแรง 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี เดือนละ 25,000 บาท
8.จะแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดไปทันที แต่ตอนนี้ยาเสพติดแพร่ระบาดไปทั้งเมือง
ซึ่งนโยบายที่หาเสียงไว้ทั้งหมด ยังไม่มีนโยบายใดทำสำเร็จได้เลย การโฆษณาว่าเป็นรัฐบาลมืออาชีพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ก็ไม่ได้เป็นจริง สินค้าก็ขึ้นราคาทุกวัน ประชาชนก็ไม่มีรายได้เพิ่ม สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จนมีกระแสของแพงทั้งแผ่นดิน ดังกระหึ่มสื่อโซเชียล
ล่าสุดกลับนำเอานายวิษณุ เครืองาม มาใช้งานเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ยิ่งเป็นการตอกย้ำความตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง การกลับไปกลับมา กลับกลอกเหมือนลิงหลอกเจ้า ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยล้มละลายในเรื่องคำพูด ขาดความเชื่อถือจากประชาชนโดยสิ้นเชิง