เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 3 มิ.ย. 2567 ที่ท้องสนามหลวง พ.ต.อ.ทวี สอดส่องรมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังรายงานนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงการรับตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมกลับประเทศไทย ว่า ตอนนี้การประสานงานในการรับตัวนายเชาวลิต กับทางประเทศอินโดนีเซีย  ซึ่งทางประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าสามารถรับตัวได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. แต่บังเอิญขาดเรื่องเอกสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นความเข้มแข็งขององค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศหรือ อินเตอร์โพล นอกจากนี้ทางประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าสามารถนำตัวนายเชาวลิตมาส่งให้ประเทศไทยได้ตามระบบกฎหมายของอินโดนีเซีย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ดังนั้นวันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะมีการประชุมว่า จะใช้ช่องทางไหนได้ แต่ในหลักการคือวันที่ 4 มิ.ย.นายเชาวลิตควรจะมาถึงเมืองไทยแล้ว ทั้งนี้กรณีเป็นการหนีการควบคุมจากเรือนจำที่จ.นครศรีธรรมราช โดยหลักการเมื่อตำรวจสอบสวนเสร็จและแจ้งข้อหาแล้ว จะต้องนำไปขังศาลที่เกิดเหตุ เพราะสำนวนยังไม่ได้โอนมา จากนั้นอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะพิจารณาว่า จะนำตัวนายเชาวลิตควบคุมตัวไว้ที่ใด ตนจึงขอให้ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกรมราชทัณฑ์ไปประชุมกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพและไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาอีก

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่หากนายชวลิตกลับไปจ.นครศรีธรรมราช แล้วจะเกิดปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ประเมินดู ซึ่งจากที่ตนลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ทราบว่าเจ้าหน้าที่มีการประชุมกัน ว่าเมื่อนายชวลิตเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อให้การดำเนินการตามกฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องของการนำตัวคนผิดมาฟ้องและลงโทษ

เมื่อถามต่อว่า มีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ ที่จะนำตัวนายเชาวลิตมาดำเนินคดีในกรุงเทพฯ โดยไม่ไปที่จ.นครศรีธรรมราชตามที่นายเชาวลิตร้องขอ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตอนนี้คดียังไม่ได้โอนมาที่ส่วนกลาง ดังนั้นจะต้องมีการสอบสวนที่จ.นครศรีธรรมราชและจ.พัทลุงก่อน ซึ่งที่จ.พัทลุงจะต้องมีการอายัดตัว แต่จากการฝากขังครั้งที่ 1 ครบ 48 ชั่วโมงแล้วเมื่อศาลอนุมัติฝากขัง ศาลฎีกามีระเบียบว่า ฝากขังครั้งต่อไปสามารถปรากฏตัวทางออนไลน์ได้ก็อาจจะนำไปขังที่อื่น

เมื่อถามอีกว่า ประเด็นที่จะนำตัวมา ส่วนกลางที่กรุงเทพฯ มีความเป็นไปได้มากกว่าใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดิมเป็นความคิดของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่อยากนำตัวมาไว้ที่กรุงเทพฯ แต่ตนบอกว่าต้องประชุมกันให้ดี ทั้งนี้ตนอยากจะบอกว่าการนำตัวนายเชาวลิตกลับมาประเทศไทยมีบางกระแสที่บอกว่ามีการใช้งบประมาณที่ฟุ่มเฟือย ตนขอชี้แจงว่าทางเรามีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะถ้ามาเครื่องบินพาณิชย์ ในเงื่อนไขเดิมจะแพงกว่าการที่มากับเครื่องบินของกองทัพอากาศ เพราะคณะของอินโดนีเซียที่มาส่งก็หลายคน 

เมื่อถามย้ำว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ว่ามีเท่าไหร่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เท่าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. ประมาณค่าใช้จ่าย 600,000 บาท ทั้งค่าน้ำมันและค่าจอดเครื่องบิน ทั้งนี้เราพิจารณาแนวทางที่ดีที่สุด 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยนำตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องร้องและลงโทษ ซึ่งเรื่องนี้ความจริงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องน่าดีใจ มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิด แต่เมื่อมันเกิดแล้วเราก็ต้องไปตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร หนีไปอย่างไร หรือมีความเกี่ยวข้องกับใครมีผู้บงการ ผู้ใช้ หรือผู้ช่วยเหลืออย่างไร และกรณีที่นายเชาวลิตออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากสื่อแม้ว่าจะไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ แต่บุคคลที่เขาอ้างอิง ถ้าเราไปสอบสวนแล้วมีความผิดก็จะเป็นหลักฐานใหม่ ฉะนั้นก็ขอให้ทำหน้าที่ตรงนี้ก็แล้วกัน

เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้มีการหารือถึงสถานที่ที่จะนำตัวนายเชาวลิตไปคุมขังหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ไปถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และในการไปรับตัวนายเชาวลิตตนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงยุติธรรมจัดทีมไปรับตัว

#ทวีสอดส่อง #แป้งนาโหนด #ข่าววันนี้ #กรมราชทัณฑ์