สุดเวทนาหญิง วัย 26 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ถูก ตร.นำหมายจับศาลระยอง คดีฉ้อโกงเข้าจับกุม ต้องทิ้งลูกน้อย 4 คน เล็กสุดอายุแค่ 3 เดือน ยังไม่หย่านมให้ยายชรา และสามีรับจ้างทั่วไปฐานะยากจน เลี้ยงดูเพราะไร้เงินประกันตัว หลายหน่วยงานลงพื้นที่หาแนวทางช่วยเหลือเพื่อให้ได้ประกันตัวมาเลี้ยงลูก ส่วนคดีก็ต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม   

(2 มิ.ย.67) นางสาวเพรชรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอ ฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วยนายรังสันต์ อุทพันธุ์ นายก อบต.ทรัพย์พระยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการ อบต.ทรัพย์พระยา นายกุมพันธ์ สายเสมา ผู้ใหญ่บ้านหนองนา หมู่ 5  ลงพื้นที่ไปบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหนองนา ต.ทรัพย์พระยา เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และหาแนวทางช่วยเหลือ หลังได้รับแจ้งว่า มีหญิงคนหนึ่ง ชื่อ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี  ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายศาลจังหวัดระยอง เข้าทำการจับกุมขณะกำลังเลี้ยงลูกน้อยวัย 3 เดือน อยู่ที่บ้าน เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.เอ ถูกแจ้งความกล่าวหาว่า “มีส่วนร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ในท้องที่ (สถานีตำรวจภูธรปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง)  แต่ไม่ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจึงถูกออกหมายจับ แม้ น.ส.เอ จะปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่ก็ต้องไปต่อสู้ตามกระบะบวนการยุติธรรม  

แต่สิ่งที่น่าเวทนา คือ น.ส.เอ ที่ถูกจับกุม  มีลูกถึง 4 คน คนโตลูกสาว อายุ 12 ขวบ, คนที่สองลูกชาย อายุ 8 ขวบ คนที่สามลูกสาว อายุ 3 ขวบ และคนที่สี่เป็นลูกชาย อายุเพียง 3 เดือนยังไม่หย่านม ปัจจุบันมีเพียงยายซึ่งแก่ชรา อายุ 76 ปี  และสามีของ น.ส.เอ  ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่แน่นอน ต้องดูแลหนูน้อยทั้ง 4 คน  ทางครอบครัวอยากให้ผู้เป็นแม่ออกมาดูแลลูก โดยเฉพาะคนเล็กซึ่งเพิ่งอายุแค่ 3 เดือนยังต้องกินนม  แต่ด้วยฐานะยากจนไม่มีเงินประกันตัว ซึ่งเขาแจ้งว่ายอดวงเงินประกันถึง 50,000 บาท 

สอบถามนางลวง (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี เล่าว่า น.ส.เอ ที่ถูกจับกุมเป็นหลานสาว ก็ไม่รู้ว่าหลานไปทำอะไรถึงถูกจับกุม เพราะก็เห็นหลานเลี้ยงลูกน้อยอยู่ที่บ้าน ส่วนยายก็ลิก้านมะพร้าวส่งให้เขาทำไม้กวาดขาย  ก็ได้วันละประมาณ 17 บาท  และมีเบี้ยคนชราไว้เลี้ยงชีพ  ส่วนลูกหลานคนอื่นต่างก็ดิ้นรนทำงานรับจ้างเลี้ยงปากท้องเหมือนกัน  จึงไม่มีใครมีเงินที่จะไปประกันตัวหลานสาว เพราะเขาบอกว่าเงินประกันถึง 5 หมื่นบาทก็คงไม่มีปัญญา ก็อยากให้ช่วยเหลืออย่างน้อยให้หลานได้ประกันตัวออกมาเลี้ยงลูกน้อยที่บ้าน  

ด้านนายรังสันต์ อุทพันธุ์ นายก อบต.ทรัพย์พระยา ระบุว่า หลังทราบเรื่องว่าชาวบ้านซึ่งมีฐานะยากจนถูกจับกุม แต่ยังมีลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดูหลานคน  ไม่มีเงินประกันตัว  ก็ได้ร่วมกับหลายภาคส่วนลงพื้นที่มาดู  เพื่อจะได้หาแนวทางช่วยเหลือ  เบื้องต้นก็จะช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่ อาหาร และนมของเด็กๆ ทั้ง 4 คนก่อน 

ส่วนเรื่องการประกันตัวก็ต้องหารือผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าจะสามารถดำเนินการได้แค่ไหน อย่างไร 

ซึ่งตัวแทนอำเภอ  อบต. และผู้นำหมู่บ้านที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ  ก็จะได้รายงานข้อมูลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ  เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ ในการยื่นประกันตัว เพื่อให้ผู้เป็นแม่ได้ออกมาเลี้ยงดู  ส่วนเรื่องคดีที่ถูกหมายจับ ก็ต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการยุติธรรม  โดยทราบว่า ขณะนี้ น.ส.เอ  ถูกคุมตัวอยู่ที่เรือนจำระยอง