นักเรียนมัธยมสาววัย 16 หลายปัญหารุมเร้า คิดสั้นจะกระโดดสะพานลอยข้ามถนน เหตุเครียดจากหลายปัญหารุมเร้า โชคดีหนุ่มตกงาน เดินผ่านมาพบ เข้าช่วยไว้ได้ทัน

 เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 20.30 น.  ศูนย์วิทยุ191 บก.ภ.จว.ระนอง รับแจ้งเหตุด่วน มีหญิงสาวคิดจะกระโดดสะพานลอยข้ามถนนเพชรเกษม  ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงรีบสั่งการให้สายตรวจ ชุดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สภ.เมืองระนอง เข้าทำการตรวจสอบและดำเนินการช่วยเหลือทันที   และมี พ.ต.ต.สุรศักดิ์  บุญทองสังข์  สวป.สภ.เมืองระนอง เข้ามาเป็นผู้อำนวยการเหตุ



 ในที่เกิดเหตุ บนสะพานลอย ข้ามถนนเพชรเกษม พบนักเรียนหญิงวัย 16 ชั้นมัธยมปลาย นั่งร้องไห้เสียใจอยู่กลางสะพาน โดยมีพยาบาลสาวในชุดสีน้ำตาล นั่งโอบกอดประคองและกล่อมน้องไม่ให้เครียด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัย คอยยืนสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ  โดยมือด้านขวาของน้องยังเกาะราวเหล็กอลูมิเนียมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พลเมืองดีที่มาประสบเหตุ ต้องช่วยประคองจับมือน้องไว้ ป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมีพ่อและแม่เลี้ยง สลับกันเข้ามาพูดคุยกับน้อง แต่น้องยังร้องไห้อยู่ตลอดไม่สามารถกล่อมน้องได้  สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนให้ย่า ซึ่งตามมาในภายหลัง ซึ่งป่วยเป็นโรคความดันสูง เข้ามาพูดคุยกับน้องแทน

 ทันทีที่ย่ามาถึง ย่าบอกน้อง ย่ามาแล้วลูก น้องก็ได้โอบกอดย่าทันที ย่าบอกถ้าน้องไม่อยู่แล้วย่าก็จะไม่อยู่ด้วย ทำให้น้องคิดได้  สามารถเรียกสติน้องกลับมา  ยอมลุกขึ้นตามย่าบอก  และช่วยกันประคองพาน้องลงจากสะพานลอย  โดยมีรถพยาบาลฉุกเฉินของ มูลนิธิระนองสงเคราะห์ มารับตัวน้อง ไปพบแพทย์ให้คลายเครียด ที่ รพ.ระนอง  

 จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า  น้องมีความเครียดจากปัญหาหลายด้าน น้องคิดมากเรื่องปัญหาครอบครัว ประกอบฐานะยากจน และเลือกที่จะหางานพาร์ทไทม์ทำในช่วงปิดเทอมและวันหยุดเสาร์อาทิตย์  เพื่อจะเก็บเงินสะสมไว้ มีความฝันจบชั้นมัธยมศึกษา จะสอบเข้าเรียนเภสัชศาสตร์  เพื่อจบออกมาจะได้ดูแลรักษาย่า  ซึ่งก่อนเกิดเหตุน้องเพิ่งจะเลิกงาน แต่ไม่ทราบว่าเครียดเรื่องอะไร  ก่อนจะร้องไห้เดินขึ้นมาบนสะพานลอย เตรียมที่จะก่อเหตุสลด โชคดีมีพลเมืองดีซึ่งเป็นชายที่พึ่งตกงานมาพบ  ก่อนที่จะเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน และโทรแจ้งเหตุด่วนให้ จนท.มาช่วยเหลือทันที

 จากการให้ปากคำของแม่เลี้ยงได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุว่า น้องเรียนอยู่ชั้น ม.5 ก่อนหน้า พ่อและแม่เค้าเลิกกัน ซึ่งแม่เค้าก็ทิ้งเค้าไป ในขณะนอนอยู่กับน้องสาว ตื่นมาแม่ก็ไม่มีแล้ว ตอนที่แม่หนีไปตอนนั้นน้องเค้าอยู่ ม.3 โดยปกติน้องเค้าจะเป็นคนเงียบ จะไม่เข้าหาพ่อ มีอะไรจะเข้าหาน้า (แม่เลี้ยงมากกว่า) มีอะไรตนก็จะซื้อให้หากอยากได้อะไร  หากเค้าไปหาพ่อจะถูกปฎิเสธ ให้ประหยัดหน่อย  ซึ่งเราจะคอยซัพพอร์ต ให้น้องตลอด บางทีน้องอาจจะสงสารเราด้วย  

 นายธเนศ  ดำแดง อายุ 22 ปี  เพึ่งตกงานมาได้ 2-3 วัน และเป็นพลเมืองดีที่เข้ามาพบและช่วยน้องเป็นคนแรก ได้เล่าเหตุการณ์และให้ข้อคิดว่า  ตอนแรกผมเดินขึ้นสะพานลอยมา  แล้วผมก็เห็นคนร้องไห้อยู่  แล้วผมยังไม่รู้ไงว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมเลยเดินถอยออกมา แล้วยืนดู  เห็นน้องเค้ายืนขึ้น ผมจึงมั่นใจว่าน้องเป็นผู้หญิง เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดู แล้วผมก็เดินมากล่อมน้องเค้า ให้น้องเค้าเล่าปัญหาให้ฟัง  น้องเค้ามีปัญหารุมเร้า  ดูเหมือนว่าพ่อแม่ไม่รัก พ่อแม่ไม่สนใจอะไรประมาณนี้ น้องบอกอยากจะตาย ผมก็เลยกล่อม กล่อมไปเรื่อย จนตำรวจคนแรกก็มาช่วยกันกล่อม  พอรียกพ่อเค้ามาคุย คุยในเชิงไม่ดี  ใส่อารมณ์ ช่วยอะไรไม่ได้ก็ให้พ่อเค้าถอยออกไป จนพวกพี่เข้ามา  ตามที่เพี่เห็น  ว่าน้องเค้าแย่แล้วผมแย่ ผมก็ตกงานช่วงนี้ ตกงานเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว  ผมก็คงเคสเดียวกับน้องเค้า แต่ผมไม่คิดสั้น  ทุกวันนี้พ่อแม่ก็ปล่อยปละละเลย  ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่เราเป็นผู้ชาย เราต้องสู้ ผมคิดว่าการฆ่าตัวตายนี้ มันเป็นอะไรที่แบบทำร้ายตัวเองมากๆแต่ไม่รู้ว่าเราฆ่าตัวตายไป  ไม่รู้ว่าเราได้เกิดมาเป็นอำร  ถ้าเผลอๆอาจจะไม่ได้เกิด  หรือเกิดมาเป็นคน ก็ต้องฆ่าตัวตายอยู่ซ้ำๆ  คนเราเกิดมาอนาคตยังอีกไกล  ความตายก็ให้มันเป็นธรรมชาติดีกว่านะ