จังหวัดชัยนาท จัดพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพและเวียนเทียนน้อมถวายเป็นพุทธบูชา วันอัฏฐมี 
         

  วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.00 น. ที่วัดสรรพยาวัฒนาราม ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท พระครูสมศักดิ์ สักกฺธีโร เจ้าอาวาสวัดสรรพยาวัฒนาราม พร้อมด้วย นายวิทยา ชพานนท์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดชัยนาทและพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพและเวียนเทียนน้อมถวายเป็นพุทธบูชา วันอัฏฐมี คือ วันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา ถือเป็นวันที่ตรงกับวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เป็นวันที่ชาวพุทธต้องวิปโยค และสูญเสียพระบรมสรีระแห่งองค์พระบรมศาสดา

ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงยิ่ง และเป็นวันควรแสดงธรรมสังเวช และระลึกถึงพระพุทธคุณให้สำเร็จเป็น พุทธานุสสติภาวนามัยกุศล ประวัติความเป็นมาของวันอัฏฐมีบูชา เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว 8 วัน มัลลกษัตริย์แห่งนครกุสินารา พร้อมด้วยประชาชน และพระสงฆ์อันมีพระมหากัสสปเถระเป็นประธาน ได้พร้อมกันกระทำการถวายพระเพลิงพุทธสรีระ ณ มกุฎพันธนเจดีแห่งกรุงกุสินารา เมื่อวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งในทางพระพุทธศาสนา คือ วันอัฏฐมีบูชา หรือ วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังเสด็จดับขันธปรินิพพานได้ 8 วัน ในแต่ละปี พุทธศาสนิกชนบางส่วน โดยเฉพาะพระสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกา ได้พร้อมกันประกอบพิธีบูชาขึ้น เป็นการเฉพาะภายในวัด เช่นที่ปฏิบัติกันอยู่ในวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ และ ปัจจุบัน จังหวัดชัยนาท จัดขึ้นที่วัดสรรพยาวัฒนาราม ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งมีพระพุทธรูปปางประทับนอนหงายในหีบพระบรมศพ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ปางแหย่เท้า” เป็นพระพุทธรูปประทับนอนหงายในหีบพระบรมศพ โดยมีพระบาทยื่นออกมาจากหีบพระบรมศพ มีพระมหากัสสปะ ซึ่งเป็นพระอรหันต์สาวก และพระสาวก รวมทั้งหมด 4 รูป นั่งกราบสักการะอยู่ปลายพระบาท   อันเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่หาชมยากอายุกว่า 100 ปี ภายในวิหารน้อยเก่าแก่อายุกว่า 120 ปี คู่บ้านคู่เมืองสรรพยามาช้านาน