เมื่อวันที่ 31 พ.ค.67 ผู้สิ่อข่าวรายงานว่า นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้รับการ ร้องเรียนว่า เกษตรกร ชาวนา ซึ่งกำลังลงพื้นที่ ทำการเกษตร แต่ขาดน้ำ ที่จะมา ทำการเกษตร จึงขอวิงวอนนายอำเภอช่วยเหลือด่วน   น่ยอำเภอจึง ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาให้ชาวนาที่ลำคลองที่ส่งน้ำเข้าที่นาของประชาชน จำนวนหลายร้อยไร่ หลายครัวเรือน เกิดการตื้นเขิน น้ำไม่สามารถเข้ามาได้ เคยร้องขอการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ขุดลอกลำคลองช่วยชาวนาก็ไม่ได้ รับการเหลียวแล สร้างความเดือดร้อนแก่พวกชาวนา เพราะขณะนี้ถึงฤดูทำนาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีน้ำเข้ามาในลำคลองเพื่อส่งเข้าผืนนาแต่อย่างใด 

นายรัฐพลฯ  เปิดเผยว่า กรณีที่เกษตรกร กำลังประกอบอาชีพทำการเกษตร แต่ขาดน้ำ ที่จะไปหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตร เมื่อเขาร้องเรียนต่อนายอำเภอครั้งนั้น นายอำเภอได้ให้คำแนะนำไปว่าเบื้องต้นเฉพาะหน้านี้ ขอให้พี่น้องชาวนาได้ช่วยกันระดมทุนช่วยกันก่อนเพื่อจะได้รีบเร่งทำนาให้ทันฤดูฝน ส่วนในระยะยาวนายอำเภอจะได้ประสาน อบต.บางขันหมาก จัดตั้งงบประมาณ ทำโครงการ ขุดลอกลำคลองที่ตื้นเขินให้กว้างและลึกลง กว่าเดิม นำเศษวัชพืชออกมิให้กีดขวางทางน้ำไหล จะทำให้น้ำในคลองไหลเข้าสะดวก 

วันนี้ตน จึงลงพื้นที่พร้อมด้วยนางสาวแก้วตา ศรีเภาทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บางขันหมาก อ.เมืองลพบุรี ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พบว่าพี่น้องเกษตรกรได้ปฎิบัติตามคำแนะนำของนายอำเภอ ด้วยการลงขันกันจ้างรถแบ็คโฮ ครัวเรือนละ 1,000 บาท เมื่อรวมกันแล้วแต่ ยังขาดค่าจ้างรถดังกล่าวอีก 5,000 บาท  แต่โชคของเกษตรยังดี ได้รับความกรุณาจาก ผู้ใหญ่บ้านขอเป็นผู้รับผิดชอบในส่วน ที่เกษตรขาดเหลือ

พร้อมกันนี้ ระหว่างที่ผมออกราชการ ผมก็ได้เห็นกับครอบครัวที่มีฐานะลำบากรับจ้างเลี้ยงวัว และพ่อแก่เฒ่าเลี้ยงลูกพิการเป็นใบ้ ส่วนแม่ไปรับจ้างทำนา ยังไม่กลับมา จึงได้มอบถุงยังชีพให้ 1 ถุงเพื่อให้กำลังใจและช่วยเหลือเบื้องต้น

 ในการนี้ชาวนาแสดงความดีใจที่เห็นน้ำไหลเข้ามาอย่างสะดวก จึงจะเริ่มลงมือทำนาพร้อมกับกล่าวชื่นชมผู้ใหญ่บ้านที่เสียสละเห็นทุกข์ของชาวบ้านแล้วมาช่วยแก้ไขทันท่วงที รวมทั้งกล่าวขอบคุณนายอำเภอที่ให้ข้อแนะนำ หาทางออกแต่แรกและยังติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิดอีกด้วย