เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 31 พ.ค. 2567 ที่ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน Bangkok Pride Festival 2024 โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต. ประจำสำนักนายกฯ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส. บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยสส.พรรครทสช. เข้าร่วมงาน
โดยเมื่อนายกฯเดินทางถึงได้ร่วมเคลื่อนขบวนจำลอง Bangkok Pride Festival 2024 ไปยังลานพาร์คพารากอน ก่อนร่วมกันถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้บริหารและตัวแทน Community ที่บริเวณหน้า backdrop
ก่อนนายกฯ จะเดินไปยังพื้นที่จัดงานรับชมการแสดงเปิดจากกลุ่ม DRAG BANGKOK ก่อนนายกฯ กล่าวเปิดงาน Bangkok Pride Festival 2024 ตอนหนึ่งว่า สวัสดีพี่น้องชาว Pride และLGBTQ วันนี้มีสปีดเขียนมาให้ยาวพอสมควรแต่ตนคิดว่าเรามาวันนี้เรามาพูดด้วยใจดีกว่า
ตนเชื่อว่าวันนี้เป็นวันนี้ที่เราได้มาฉลองสิทธิพื้นฐานของพวกเราทุกคน ที่ควรจะมี ใครจะไปนึกว่า 3-4ปีที่แล้วจะมีคน 200,000 คนมาเดินในสถานที่แห่งนี้ พรุ่งนี้(1 มิ.ย.)ที่บริเวณหน้าสยามพารากอนจะมีคนประมาณ 200,000 คน มาเดินที่สถานที่แห่งนี้ และมาพูดคุยแสดงออกถึงสิทธิพื้นฐานที่พวกเราควรจะมี ก็ต้องขอชื่นชมคณะผู้จัดงาน พี่น้องชาว Pride และLGBTQ ทุกท่าน ที่ต้องเรียนว่าอดทนแบบไม่ควรต้องอดทน แต่พวกท่านก็อดทนกันมาผลักดันกันมา พูดคุยกันในเวทีที่สร้างสรรค์ จนกระทั่งร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สมรสเท่าเทียม พ.ศ. …จะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้จะเดินหน้าไปกับพวกท่านทุกคน เราจะไม่หยุดยั้งแค่พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เรื่องของคำนำชื่อและสิทธิในการประกอบอาชีพเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญในการที่เราเป็นองค์ประกอบ ที่จะทำให้พวกเราทุกคนได้รับสิทธิ์และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ได้มาแค่วันนี้วันเดียวหรือคืนนี้คืนเดียว แต่เราต้องการให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยั่งยืน
นายกฯ กล่าวต่อว่า แต่แน่นอนว่าในเดือนมิ.ย.นี้ เราจะร่วมกันฉลองและหวังว่าปี 2030 จะได้รับความไว้วางใจให้จัดงาน world Pride ของโลกขึ้นมา แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ในฐานะผู้นำรัฐบาลขอให้คำมั่นว่าเราจะช่วยผลักดันเรื่องคำนำหน้าชื่อ Sex Worker (อาชีพอันสมศักดิ์ศรี) เพื่อให้เราได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และตนเดินเข้ามาในงานวันนี้ความจริงแล้วต้องยอมรับว่าเป็นวันศุกร์ และเป็นอาทิตย์ที่งานหนักมาตลอดทั้งวัน และเป็นอาทิตย์ที่ขึ้นเวทีไปกี่เวทีก็ไม่ทราบ แต่เวทีนี้มีความแตกต่าง เรื่องสิทธิที่จะมีความรักเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกท่าน ทุกคนที่ควรจะมีและควรจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ถ้าเลือกจะรักใครชอบใครหรือเลือกใช้คำนำหน้าเป็นอะไร อย่างไร เลือกจะประกอบอาชีพอะไร ตนถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
“ผมว่าเราอยู่ร่วมกันในที่นี้ เรามารวมกันเฉลิมฉลอง The like to love อวยพรให้ผู้จัดงานประสบความสำเร็จและพี่น้องชาว Prideทุกคนประสบความสำเร็จ สมหวังในทุกเรื่องที่พวกท่านอยากจะได้ และอยากจะเป็นรัฐบาลนี้ และทุกพรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันผลักดันอย่างเต็มความสามารถให้พวกท่านไปถึงจุดที่พวก ท่านอยากไป“ นายกฯ กล่าว