วันที่ 31 พ.ค.2567 เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา นายจุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีว่า ในฐานะที่ตนเป็นนิสิตเก่าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือเป็นลูกศิษย์ของนายวิษณุ ซึ่งตนสอบได้คะแนน 98 คะแนนจาก 100 คะแนน ในวิชากฎหมายของนายวิษณุ จนนายวิษณุให้เกียรติโดยเอาชื่อของตนไปใส่ในปัญหาตุ๊กตา ในตำรากฎหมายที่นายวิษณุแต่งเล่มหนึ่ง และในสมัยนั้นตนก็เป็นกรรมการนิสิตคณะนิติศาสตร์ โดยนายวิษณุเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และตนได้ปรึกษากับนายวิษณุบ่อยครั้ง
       
“เมื่อวานนี้ ผมเห็นท่านในจอสื่อ ผมก็อดเป็นห่วงสุขภาพท่านไม่ได้ ผมก็ไม่ทราบจะหาช่องทางติดต่อท่านทางใด เบอร์โทรหรือไลน์ท่านผมก็ไม่มี จึงขอฝากสื่อมวลชนไปถึงอาจารย์วิษณุในฐานะศิษย์เก่าของท่านว่า ขอร้องให้อาจารย์วิษณุปล่อยวางทางการเมืองเสียที เในโลกนี้ทุกเรื่องไม่มีใครที่ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ ต้องมีคนรุ่นใหม่แทนจนได้ อาจารย์วิษณุอย่าไปเชื่อหากมีคนมาบอกท่านว่ารัฐบาลนี้ขาดท่านไปไม่ได้”นายจุลพงศ์ กล่าว
       
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า นายวิษณุชอบยกคำบาลีในพระพุทธศาสตรนามาให้ข้อคิดแก่ผู้อื่น ตนจึงขอยกเรื่องที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตอบคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่เมื่อคนย้อนนึกถึงอดีตแล้ว จะทำให้คนเสียใจมากที่สุด พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า สิ่งที่ทำให้คนเสียใจมากที่สุดคือการที่คนคิดว่าตนเองนั้นมีเวลา
        
“เวลาของอาจาวิษณุยังไม่หมด แต่ผมขออนุญาตเรียนไปยังอาจารย์วิษณุว่าแม้ท่านจะลงเรือแป๊ะมาแล้ว ตอนนี้ผมไม่ได้ห่วงว่าท่านจะล่มไปพร้อมกับเรือนิด แต่ผมเป็นห่วงสุขภาพของท่าน จึงขอให้อาจารย์วิษณุใช้เวลาในปัจจุบัน ไปรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะดีกว่า และหาความสุขเดินทางท่องเที่ยวที่ท่านชอบตามวัยของท่าน” นายจุลพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า การที่นายกฯแต่งตั้งนายวิษณุให้ไปช่วยด้านกฎหมาย แสดงว่านายกฯไม่ไว้ใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายจุลพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ตนไม่ทราบว่าความคิดที่ไปดึงนายวิษณุมาช่วย เป็นความคิดของนายกฯเองหรือไม่ เพราะพวกเราก็เคยรู้อยู่แล้วว่าในสมัยก่อนนายกฯก็เคยพูดถึงนายวิษณุไว้อย่างไรบ้าง และในพรรคเพื่อไทยก็มีผู้ใหญ่ด้านกฎหมายที่มีความสามารถหลายคน