นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวทางพัฒนาระบบกำจัดขยะของกรุงเทพมหานครว่า ตั้งแต่ปี 2565 กทม.โดยสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต มีความพยายามเชิญชวนประชาชนช่วยกันแยกขยะ เป็นผลให้สามารถลดขยะได้จาก 10,700 ตัน/วัน ปัจจุบันเหลือขยะที่ต้องจัดเก็บไม่เกิน 9,000 ตัน/วัน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของ กทม.ที่ต้องการพัฒนาระบบกำจัดขยะให้มีประสิทธิภาพ โดยการกำจัดขยะส่วนใหญ่ของ กทม.คือ การฝังกลบ ซึ่งมีขยะในส่วนนี้กว่าร้อยละ 50 ขณะเดียวกัน มีปัญหาเรื่องส่งกลิ่นเหม็นได้รับการร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงในอนาคตพื้นที่ฝังกลบจะมีน้อยลง กทม.จึงตั้งเป้าลดปริมาณขยะฝังกลบในปี 2569 ให้เหลือประมาณร้อยละ 20 แต่จะเพิ่มเรื่องการนำขยะไปใช้ประโยชน์ เช่น แยกขยะ การหมักทำปุ๋ยทดแทนร้อยละ 50 ในปี 2569

 

ด้านการเผาขยะ ปัจจุบัน กทม.อยู่ระหว่างก่อสร้างเตาเผาขยะไฟฟ้า 2 เตา ที่ศูนย์กำจัดขยะหนองแขมและอ่อนนุช ปริมาณการเผาไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน กำหนดแล้วเสร็จประมาณเดือน พ.ย.69 เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะช่วยเพิ่มปริมาณการเผาขยะร้อยละ 28 ทำให้มีขยะที่ต้องฝังกลบน้อยลง ส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อม โดยหลังจาก กทม.พยายามปรับเปลี่ยนวิธีการกำจัดขยะ ส่งผลให้ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมาสามารถประหยัดงบประมาณในการกำจัดขยะได้ปีละประมาณ 172 ล้านบาท เฉลี่ยลดค่ากำจัดขยะได้ร้อยละ 23 ต่อ 1 ตัน

 

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กทม.ยังอยู่ระหว่างดำเนินการเช่ารถขยะระบบไฟฟ้า (EV) เนื่องจากมีการศึกษาบ่งชี้ความคุ้มค่าด้านรักษาสิ่งแวดล้อมภายใต้พลังงานสะอาดโดยใช้งบประมาณในการเช่าน้อยลงร้อยละ 20 ต่อรถ 1 คัน ลดก๊าซเรือนกระจกจาก 2,256 kgco2/เที่ยวรถ เหลือ 192 kgco2/เที่ยวรถ ลดฝุ่น PM2.5 เป็น 0 และลดต้นทุนการใช้พลังงานไม่น้อยกว่า 3 เท่าจากเดิม ซึ่งปัจจุบัน กทม.มีรถเก็บขยะระบบดีเซลทั้งหมด 2,019 คัน แบ่งเป็น กทม.ซื้อใช้เอง 456 คัน กทม.เช่าใช้ 1,563 คัน โดยแผนการเปลี่ยนจากรถดีเซลเป็นรถ EV จะเริ่มทยอยเปลี่ยนตั้งแต่เดือน ต.ค.67 ถึงปี 69 แบ่งเป็น ปี 67 จำนวน 615 คัน ปี 68 จำนวน 392 คัน ปี 69 จำนวน 657 คัน

 

“เน้นว่ารถทั้งหมดเป็นรถที่เช่ามา ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับสภาพรถไม่ว่าจะเป็นกรณีอะไร เป็นเรื่องของผู้รับจ้างต้องดำเนินการแก้ไขจนกระทั่ง กทม.สามารถใช้รถได้ หากกรณีรถมีปัญหา ผู้รับจ้างต้องหารถมาให้เราใช้ทดแทน ในระหว่างรถที่เราเช่าอยู่เกิดปัญหา“ นายจักกพันธุ์ กล่าว