วันที่ 30 พ.ค.67ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสมพิศ สืบศรี อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 1 บ้านสำราญ ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เปิดเผยว่ามีลูกค้านำแบงค์พันปลอมไปซื้อกับข้าว จำนวน 1 ใบ โดยได้เปิดเป็นร้านขายกับข้าวถุงและปี้งไก่อยู่บริเวณหน้าบ้านพักของตนเองซึ่งอยู่ติดกับถนนแจ้งสนิท เพื่อให้ลูกค้าที่ผ่านไปมาแวะใช้บริการและ นางสมพิศฯ ได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นแบงค์ปลอมออกมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูและจากการสังเกตพบว่าแบงค์พันปลอมที่พบมีลักษณะคล้ายกับของจริงเป็นอย่างมากจนแทบแยกไม่ออกถ้าไม่สังเกตุให้ดีแต่ถ้ายกส่องดูจะไม่มีลายน้ำพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ลักษณะสีและกระดาษก็เหมือนมาก
และแบงค์ปลอมที่พบได้มีลูกค้านำมาซื้อกับข้าวที่ร้านของตนเมื่อประมาณช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาโดยในวันนั้นจะมีลูกค้าเข้ามาซื้อกับข้าวจำนวนมากจนตนจำไม่ได้ว่าใครซื้ออะไรบ้างและในวันนั้นตนจำได้ว่ามีลูกค้านำแบงค์พันมาซื้อกับข้าวของตนถึง 4 คน 4 ใบ และตนก็รับมาแล้วก็ทอนเงินไปโดยไม่ได้ดูให้ดีว่าแบงค์ไหนเป็นแบงค์ปลอมจนกระทั่งวันต่อมาตนได้นำเงินไปซื้อของที่ห้างขายส่งแห่งหนึ่งในตัวเมืองยโสธรและในขณะที่ตนจ่ายเงินที่เคาเตอร์ไป จำนวน 8,000 บาท พนักงานก็ได้ตรวจนับเงินและพบความผิดปกติของแบงค์พันอยู่ 1 ใบ จึงได้ตรวจอย่างละเอียดจนพบว่าเป็นแบงค์พันปลอมตนจึงเก็บแบงค์พันปลอมเอาไว้แต่ตนก็ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใดแต่ตนก็อยากจะแจ้งเตือนภัยให้กับพ่อค้าแม่ค้าให้ช่วยกันระมัดระวังและคอยตรวจสอบดูเงินที่ได้มาจากลูกค้าให้ดีก่อนจะเก็บเพราะอาจจะมีลูกค้านำแบงค์ปลอมไปซื้อสินค้าเหมือนกับตนได้เพราะกว่าที่เราจะขายของได้เงินมาก็ยากอยู่แล้วกำไรในวันนั้นต้องหายไปในพริบตา