"ภูมิธรรม" นำเอกชนขายสินค้าอาหารไทยให้ยูเออี ปิดยอดทันที 40 ล้านบาท คาดซื้อปีนี้อีกกว่า 100 ล้านบาท เร่งเจาะตลาดยูเออีเปิดประตูสู่ตะวันออกกลาง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามซื้อขายสินค้า(Memorandum of Purchase :MOP) ระหว่างบริษัทไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ในช่วงระหว่างงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 โดยมีตัวแทนจากบริษัท Nesto Hypermarket L.L.C. ตัวแทนจากบริษัท Ever Spring Industry Co., Ltd. เข้าทำสัญญา ทั้งนี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานายภูมิธรรม ได้เดินไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 13 และได้หารือกับผู้ประกอบการไทย เป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงการสั่งซื้อในวันนี้ ด้วยมูลค้าสั่งซื้อทันทีกว่า 40 ล้านบาท และประมาณการการสั่งซื้อภายในปีนี้กว่า 100 ล้านบาท
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราเริ่มต้นเปิดตลาดให้ภาคเอกชนไทยกับบริษัทที่มีความพร้อมที่จะเอาสินค้าไทยไปขาย ในหลายกลุ่มสินค้า แต่ยอดอาจไม่ได้เยอะมากเป็นการเริ่มต้นเปิดตลาด ซึ่งหลังจากนี้จะเปิดตลาดให้สินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาที่ก่อนหน้านี้ได้ยุติไปครั้งหนึ่ง หลังจากที่ตนได้บินไปพบกับท่านรัฐมนตรีของยูเออีและได้หารือกัน จึงตัดสินใจที่จะกลับมาเจรจาเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน และวันที่ 4 มิถุนายนที่จะถึงนี้ จะมีการคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตลาดยูเออีเป็นตลาดที่เราให้ความสำคัญเพื่อกระจายสินค้าไทยเข้าไปในตะวันออกกลาง
"วันนี้ได้เอาภาคเอกชนมาร่วมกันขายสินค้า ซึ่งไทยเรามีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งอาหารให้ตะวันออกกลางได้ และตลาดนี้เป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่ม เครื่องปรับอากาศ ชิ้นส่วนยานยนต์ ผักผลไม้และอาหาร ที่สำคัญถ้าเปิดตลาดนี้ได้สำเร็จจะเป็นประตูไปสู่ตลาดแอฟริกาด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ ตนหวังว่าการเจรจาจากนี้ไปจะประสบความสำเร็จมากขึ้น"
โดยข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า 4 บริษัทเอกชนไทยที่ร่วมขายสินค้า ประกอบด้วย 1. บริษัท บลูโอเชี่ยนเบฟเวอเรจ จำกัด สินค้า เครื่องดื่มขิงสำเร็จรูปและชา 2.บริษัท ฉั่วฮะเส็ง ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด สินค้า น้ำพริก ซอสพริกหวานและซอสพร้อมปรุง 3.บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด สินค้า น้ำพริกและเครื่องแกง 4.บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด สินค้า กะทิสำเร็จรูปและน้ำมะพร้าว สำหรับบริษัทเนสโต้ได้ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2547 โดย Mr.K.P. Basheer ซึ่งมีสาขามากกว่า 100 สาขาทั่วทั้งอินเดียและกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และบาห์เรน รวมพื้นที่ร้านค้าปลีกมากกว่า 6 ล้านตารางฟุต รองรับลูกค้าได้ถึง 250,000 คนต่อวัน นอกจากนี้ เนสโต้ยังมีสินค้ามากถึง 600,000 รายการ ให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีคุณภาพดีและอยู่ในราคาที่จับต้องได้
#อาหารไทย #ยูเออี #ตะวันออกกลาง #ข่าววันนี้