วันที่ 30 พ.ค.67 นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ ประตูระบายน้ำสองพี่น้อง จุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ปลายคลอง ร 2 ซ้าย สองพี่น้อง และจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำคลองบางเลน ตำบลต้นตาล โดยมีนายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 นายธรรมนูญ บำรุงเพ็ชร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา และหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมลงพื้นที่ ณ จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และปริมาณน้ำฝนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีที่ไหลมาสบทบ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ทำการเกษตรของเกษตรกรในจังหวัดสุพรรณบุรี รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง อำเภออู่ทอง และอำเภอเมืองสุพรรณบุรี รวมกว่า 130,000 ไร่ ขณะเดียวกัน สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุพรรณบุรีได้เร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่
“การลงพื้นที่ในวันนี้ ได้รับทราบสถานการณ์น้ำและปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนักในอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาณน้ำฝนไหลมาสมทบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ไหลลงสู่คลองจระเข้สามพันเชื่อมโยงมายังคลองสองพี่น้อง มีปริมาณน้ำมากจนล้นเข้าคลองระบายน้ำ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำการเกษตรหลายตำบลในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเฉพาะนาข้าวของเกษตรกร อาทิ ตำบลสวนแตง ตำบลวัดโบสถ์ ตำบลวังน้ำเย็น ตำบลบางพลับ และตำบลต้นตาล อีกทั้ง บริเวณคลองส่งน้ำโพธิ์พระยามีลักษณะคลองเป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้น้ำล้นตลิ่งได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการกรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 12 จุด จำนวน 15 เครื่อง คาดการณ์ว่าภายใน 7 วัน จะสามารถระบายน้ำให้ลดลงสู่สภาวะปกติได้ หากไม่มีฝนตกลงมาสะสมอีก สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรหรือปรับปรุงข้อมูลการทำเกษตรให้เป็นปัจจุบัน ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ ขอให้เร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อรักษาสิทธิ์และโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยสามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ณ สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือเกษตรกรดำเนินการด้วยตนเองทางระบบออนไลน์ ผ่านระบบ e-Form ที่เว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th และแอปพลิเคชัน Farmbook” ปลัดเกษตรฯ กล่าว