ตร.สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง นำตัว เจ้าของโรงงานเก็บกากสารเคมี ส่งฟ้องศาลจังหวัดระยอง ก่อนที่ทนายความส่วนตัวจะใช้เงิน 20,000 บาท ประกันตัวออกมา แต่ถูก ตร.สภ.พาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มาอายัดตัวไปดำเนินคดีข้อหาปลอมแปลงเอกสารต่อ ด้านตร.สภ.มาบตาพุด ใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ขนแฟ้มในโรงงานไปตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ผู้สื่อรายงานความคืบหน้ากรณีโรงงาน ในพื้นที่ ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ไฟไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ ตร. สภ.มาบตาพุด ได้จับกุมตัวนายโอภาส เจ้าของโรงงานมาดำเนินคดีข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการครอบครองวัตถุอันตรายหลังเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.ระยอง เข้าตรวจสอบโรงงานอีกแห่งในซอยวัดโขดหิน ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง พบสารเคมีในถัง 200 ลิตร จำนวนมาก จึงไปแจ้งความดำเนินคดี โดย ตร.สภ.มาบตาพุด ตามจับกุมตัวได้ที่โรงงานอีกแห่งใน จ.เพชรบูรณ์ นำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.มาบตาพุด ก่อนจะมีการนำตัวนายโอภาส ส่งฟ้องศาลจังหวัดระยอง ต่อมานายโอภาส ได้ให้ทนายความใช้เงิน 20,000 บาท ประกันตัวมา แต่ถูก ตร.สภ.พาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มาอายัดตัวไปดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารต่อ โดยนำขึ้นรถเดินทางไป สภ.พาชี ทันที 

ด้าน ตร.สภ.มาบตาพุด ได้ใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ขนแฟ้มเอกสารจำนวนมาก มาตรวจสอบหาหบักฐานเพิ่ม หลังจากได้มีการนำกำลังเข้าตรวจสอบโรงงานอีกแห่งอยู่ในซอยวัดโขดหิน ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง

พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก. สภ.มาบตาพุด เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมนายโอภาส ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีเหตุไฟไหม้โรงงาน ที่ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย เป็นหมายจับของ สภ.มาบตาพุด ในข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการครอบครองวัตถุอันตราย ซึ่งภายหลังการสอบปากคำแล้ว ได้นำตัวนายโอภาส ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดระยอง 

อย่างไรก็ตามในกรณีเหตุไฟไหม้ซึ่งเป็นคดีในท้องที่ สภ.บ้านค่าย ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย ยังไม่มีการประสานหรือแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายโอภาส เข้ามายัง สภ.มาบตาพุด แต่อย่างไร มีเพียงของ สภ.ภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เท่านั้นที่ได้ประสานมาและจะขออายัดตัวนายโอภาส ไปดำเนินคดี.