เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 พ.ค.67  ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง โดย พ.ต.ท.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง สน.พระราชวัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.พระราชวัง ร่วมกันจับกุมตัว เด็กชายอายุ 14 ปี พร้อมของกลางเงินสด 1,220 บาทโดยจับกุมได้บริเวณถนนภายใน ซอย วัดครุฑ 7 แขวงบ้านช่างหล่อ เขต บางกอกน้อย กทม. เวลา 12.30 น. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. นายประกิจ อายุ 87 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ว่าขณะเดินออกกำลังกายอยู่บริเวณริมทางเดินเท้าหน้าร้านโชคชัย ริมถนนอัษฎางค์ ย่านวังบูรพาภิรมย์ กทม. ได้มีชายวัยรุ่นสวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีขาว รูปร่างผอม สวมใส่รองเท้าแตะ อายุประมาณ 25 ปี เข้ามาผลักแล้วใช้มือล้วงเอากระเป๋าเงินที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงแล้ววิ่งหลบหนีไป


 
ต่อมามีพลเมื่อดีนำกระเป๋าเงินของผู้เสียที่เก็บได้บริเวณใกล้บ้านหม้อติดกับซอยทิพย์วารี มาส่งมอบให้ผู้เสียหายที่สน.พระราชวัง เมื่อตนวจสอบพบว่าเงินที่อยู่ในกระเป๋าจำนวน 2,000 บาท ได้หายไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ลงพื้นที่โดยทันที ซึ่งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ จนพบว่า เวลาประมาณ 10.46 น. คนร้าย ได้เดินตามผู้เสียหายที่เดินอยู่บริเวณริมทางเดินเท้า และได้ผลักผู้เสียหายก่อนใช้มือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงผู้เสียหาย จากนั่นได้วิ่งหลบหนีเข้าไปใน ซอยเจ้าคุณเทเวศร์ ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่หลบหนีไป

จากการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง และกระชั้นชิด ทราบว่าคนร้ายได้ลงจากรถแท็กซี่บริเวณซอยอิสรภาพ 35 แยก 10 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เร่งรัดและรีบเดินทางไปตรวจสอบ จนพบคนร้ายรูปพรรณตรงตามกล้องวงจรปิด ยืนอยู่ บริเวณถนนภายในซอยวัดครุฑ 7 แขวง บ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย จึงแสดงตัว

จากการสอบถามเด็กชายกล้า ยอมรับว่า เป็นคยชิงกระเป๋าเงินผู้เสียหายมาจริงกระเป๋าได้โยทิ้งไปหลังจากหยิยเงินออกมาแล้ว ได้เงินมา 2,000 บาท จ่ายค่ารถ ค่าข้าว ซื้อบุหรี่เหลืออยู่เพียง 1220 บาท ที่ก่อเหตุครั้งนี้เพราะตนเองไม่มีเงิน เพิ่งหนีออกจากบ้านมาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนเพราะมีปัญหากับพ่อเลี้ยง กะว่าจะมาหางานทำที่ตลาดแต่ไม่มีใครรับเพราะอายุน้อย ด้วยความหิวประกอบกับหาเงินกลับบ้านที่อยู่กับเพื่อนย่านฝั่งธนจึงมาก่อเหตุ 

ภายหลังการจับกุมผู้ก่อเหตุได้พบกับผู้เสียหายพร้อมยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานสหวิชาชีพ มาร่วมสอบปากคำ ก่อนจะแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ และดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป