“จตุพร”ซัดดีลล้มเหลว ผิดพลาด ต้นเหตุดันตั้ง รบ.โกหก จน ปชช.ตอกหน้ายับทำเสียงนิยมถดถอย สิ้นศรัทธา ส่อเป็นรัฐล้มเหลว

เมื่อ 27 พ.ค. 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า... ผลสำรวจ 1 ปีของรัฐบาลเพื่อไทยสะท้อนได้ชัดเจนถึงดีลลังกาวีล้มเหลวที่ทำให้เกิดรัฐบาลโกหกตระบัดสัตย์อยากได้อำนาจจึงกล้าโกหกประชาชน สุดท้ายจึงสิ้นศรัทธา ความนิยมชมชอบแทบสูญหาย

อีกทั้งกล่าวว่า ผลโพลสำรวจความนิยมประชาชนซึ่งทำโดยสถาบันพระปกเกล้า ในช่วง 1 ปีรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งระบุความนิยมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่บริหารประเทศมา 9 เดือนกว่าได้ลำดับ 4 ส่วนพรรคก้าวไกล ฝ่ายค้านยังไม่ได้บริหารบ้านเมืองกลับได้ความนิยมอันดับ 1 ดังนั้น นายกฯ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ ทั้งที่ขยันเดินสายต่างประเทศและในประเทศมากที่สุด แต่ประชาชนยังไม่นิยม 

"อะไรก็ตามถ้าจุดเริ่มไม่ถูกต้อง ต่อให้ขยันทำให้ตายถ้าผิดคำพูดกับประชาชน แล้วได้ลาภที่ไม่ควรได้ ถึงได้ไปก็ไม่สง่างาม ไม่เป็นที่ยอมรับ สิ่งสำคัญแสดงให้เห็นว่า ผู้ดีลได้ตัดสินใจผิดพลาดสูงสุด เพราะถ้าดีลถูกต้องความนิยมจะจางหายไปเหรอ"

นายจตุพร กล่าวว่า คณะดีลคิดให้พรรคเพื่อไทยจับมือกับฝ่ายยึดอำนาจปี 2557 เพื่อสกัดขวางและจัดการความนิยมของพรรคก้าวไกล แต่ไปจัดการอย่างไรพรรคก้าวไกลจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทวีคูณ เพราะถ้าจัดการได้จริงความนิยมของพรรคก้าวไกลต้องจางหายไป แต่ขณะนี้ฝ่ายไปจัดการกลับมีความนิยมลดลงเสียเอง โดยโพลระบุเลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทยได้เสียงลดลงจาก 141 เหลือ 105 ส่วนก้าวไกลได้เพิ่มมากกว่า 200 เสียงอีก

ดังนั้น จึงเป็นความผิดพลาดสิ้นเชิง เพราะอำนาจที่ตั้งสมมุติฐานเกินจริงและเป็นความเท็จแล้วจึงเป็นความหายนะของชาติ สิ่งสำคัญเคยมีประเทศใดหรือไม่ที่คณะยึดอำนาจมาจับมือและส่งมอบอำนาจที่ยึดมากลับคืนให้พรรคที่ถูกยึดอำนาจ สิ่งนี้จึงเป็นความผิดพลาด 
รวมทั้งกล่าวว่า ผลโพลได้สะท้อนถึงข้อตกลงดีลที่ผ่านมานั้นผิดอย่างชัดเจน รัฐบาลเพื่อไทยบริหารมา 9 เดือนได้รับความนิยมจากประชาชนน้อยมาก เพราะที่ผ่านมาพูดเอาแต่ได้ อย่างไรก็ตามหากยืนด้วยสิ่งที่ถูกต้องแล้วบ้านเมืองก็ไม่เสียหาย แต่เมื่ออยากได้อำนาจ ตระบัดสัตย์ก็เอาและยอมแลกกับทุกสิ่งอย่างก็ทำ ท้ายที่สุดไม่ได้ดีขึ้นเลย

นายจตุพร กล่าวว่า วันที่ 29 พ.ค.นี้อัยการสูงสุดจะตัดสินใจอย่างไรกับนักโทษทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจะไปฟังคำสั่งฟ้องคดี 112 หรือไม่ ทั้งที่อัยการคนเดิมได้สั่งฟ้องไว้แล้ว ดังนั้น เมื่อคณะดีลถูกหักข้อตกลงอย่างนี้แล้ว จึงควรใช้เป็นช่องทางทำให้ถูกต้อง
"การตระบัดสัตย์ตั้งรัฐบาลเมื่อบอกว่าถูกต้องแล้ว ทำไมคนจึงไม่เห็นด้วย แต่ความผิดพลาดแบบนี้ทำให้กิดความเสียหายต่อบ้านเมือง และยังมีอีกหลายเรื่องที่รอจะทำให้เกิดความพินาศ อีกทั้งอีกหลายโครงการของรัฐบาลตระบัดสัตย์ที่กำลังจะทำความผิดพลาดอีก ยิ่งจะทำให้เกิดวิกฤตศรัทธา โดยเฉพาะการขายข้าว 10 ปี สุ่มเสี่ยงทำให้ชื่อเสียงตลาดข้าวไทยอาจย่อยยับได้ชั่วพริบตา”

ส่วนนายเศรษฐา ไปพบนายวิษณุ เครืองาม หารือเรื่องคำร้องของ 40 สว. นั้น นายจตุพร กล่าวว่า แสดงถึงโอกาสจะขยายเวลาชี้แจงต่อศาล รธน. ออกไปอีกย่อมเป็นไปได้ แต่สิ่งนี้ยิ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวของดีลอีกแบบหนึ่ง 

ดังนั้น อัยการนัดวันที่ 29 พ.ค.ที่จะสั่งฟ้องหรือไม่นั้น ถ้าต้องเลื่อนออกไปอีก ยิ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นถดถอยลงมาก เพราะประชาชนไม่ศรัทธากับคนโกหก ที่ไม่รักษาคำพูดทางการเมือง ซึ่งปลายทางจึงหนีไม่พ้นรัฐล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ประเทศไทยต้องมาก่อน

ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน