นายกฯ เผยผู้ว่าแบงก์ชาติ ร่วมวงครม.เศรษฐกิจ ตามคำเชิญ มีความเห็นสร้างสรรค์ขานรับดิจิทัลวอลเล็ต  น้อมรับ โพลพระปกเกล้า ต้องลุยกันต่อ ยอมรับทำโพลเองด้วย บางเรื่องยังทำไม่ดีพอ วอนอย่าพาดพิง ประวิตร ปม 40 สว. ยื่นตรวจสอบถอดถอน  มั่นใจดึง"วิษณุ" ช่วยงานไม่ถูกวางยา ลั่นถ้ากลัวคงไม่ชวน ขณะที่ วิษณุ เปิดใจรับตำแหน่งกุนซือสลค.  หลังคุยนายกฯ ยันไม่รับตำแหน่งรองนายกฯ
       
     ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ ที่ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าร่วมประชุมด้วย และได้น้อมรับทุกนโยบายใช่หรือไม่ ว่า ก็มีการพูดคุยกันในวงกว้าง ท่านเองก็ตอบรับการถูกเชิญเข้ามาด้วยดี และมีการให้คอมเม้นท์แบบสร้างสรรค์ตามที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และรมช.คลัง ได้แถลงไปแล้ว เมื่อถามว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทุกคนมีความหวังดีกับประเทศชาติ ส่วนวิธีการที่เราจะมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหรือกอบกู้เศรษฐกิจเป็นเรื่องที่เราต้องมาพูดคุยกัน
  
   เมื่อถามว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่นายพิชัยจะทำตัวเลขให้ได้ 2.5 ภายในสิ้นปีนี้ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เมื่อถามว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้นายกฯมั่นใจว่ามีความเป็นไปได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องของงบประมาณที่ยังไม่ได้ออกไปใช้เลย และตอนนี้จะมีการเร่งจ่าย โดยวาระแรกที่เรามีการพูดคุยกันใน ครม.เศรษฐกิจ เป็นเรื่องการเร่งจ่ายเงินงบประมาณปี 2567 ออกไป
  
   ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่มีการนำปัญหาขึ้นมาพูดคุยและมีมาตรการฟื้นเศรษฐกิจในหลายเรื่อง ผู้ว่าฯธปท.มีปฏิกิริยาอ่อนลงหรือไม่หลังที่ค้านมาตลอด โดยเฉพาะในเรื่องแจกเงินดิจิทัลที่เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องปฏิกิริยาอ่อนหรือแข็ง หรือเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ตนคิดว่าทุกท่านที่เข้าร่วมประชุม ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯธปท.  เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างๆ เรามาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน เราอยากทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยดีขึ้น และเรื่องของเงินดิจิทัลก็เป็นหนึ่งในหลายๆโครงการที่เรามีการพูดคุยกัน ซึ่งทุกคนตอบรับด้วยความมีเหตุมีผลซึ่งกันและกัน
    
 นายเศรษฐา ยังได้กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสถาบันพระปกเกล้า ที่ระบุความนิยมของพรรคเพื่อไทยยังตามหลังพรรคก้าวไกลอย่างมาก รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร ว่า ตนว่าผลงานอย่างเดียว ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่า โพลออกมาเป็นอย่างไร แสดงว่าพี่น้องประชาชนก็ยังไม่พอใจในการทำงานของเรา เราก็ต้องทำงานกันต่อไป เมื่อถามว่า  ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน เพราะรัฐบาลทำงานมา 9 -10 เดือนแล้ว ดูเหมือนความเชื่อมั่นไม่เพิ่มขึ้นเลย นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องข้อคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่รัฐบาลต้องเอามาคำนึง และประมวลว่า เรายังทำไม่ดีพอ ตนอยากจะลงในเชิงลึก เราเองก็มีโพลของเราเหมือนกัน ที่บางเรื่องเรายังทำได้ไม่ดีพอ กระบวนการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเรื่องราคาพืชผล ทางการเกษตร ระบบสาธารณสุข ยาเสพติด และอะไรต่างๆ ก็ยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอนว่าผลงาน ยังไม่เป็นที่พอใจ แต่ตนเชื่อว่าเรามีการทำงาน อย่างมีความคืบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหา
    
 สำหรับเรื่องกรณีที่มีการพาดพิงไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าอยู่เบื้องหลังกลุ่ม 40 สว.นั้น  เรื่องนี้ได้อ่านข่าวมาบ้าง แต่อย่าไปพาดพิงพล.อ.ประวิตรเลยดีกว่า เพราะพรรค พปชร. ก็ร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ตนก็ทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้โอเคไม่มีปัญหาอะไรกัน
     
  ผมว่าอย่าไปกล่าวโทษท่าน โดยไม่มีหลักฐานเลยดีกว่า เพราะขณะนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วเรื่องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลและชี้แจงต่อศาลภายใน 15 วัน ตรงนี้ก็ขอให้ปล่อยไปเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมดีกว่า ไม่อยากจะไปกระทบกระทั่งอะไร เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการแล้ว ผมก็มีหน้าที่ทำงานต่อไปนายเศรษฐา กล่าว
  
   ส่วนเหตุผลการแต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) นั้น กำลังอยู่ในช่วงการร่างคำสั่งอยู่ เป็นเรื่องของความถูกต้องและเหมาะสม เมื่อถามว่า นายวิษณุก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยงานใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า "ครับ ใช่ครับ เรื่องนี้ผมได้ไปพูดคุยกับท่านมาแล้ว"
   
  เมื่อถามว่า เป็นการสะท้อนหรือไม่ว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยขาดกุนซือมือกฎหมาย นายเศรษฐา กล่าวว่า ความจริงแล้วการทำงาน ก็มีผู้ชำนาญงานในด้านต่างๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมายหรือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเราก็พยายามหาทางเพื่อที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาล เพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอยู่ตลอดเวลา เมื่อถามว่า มีใครแนะนำให้นายกฯ ไปพูดคุยกับนายวิษณุ หรือไม่ นายเศรษฐา ได้แต่ยิ้มไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนจะบอกว่า คำถามต่อไปครับ  และกล่าวต่อว่า ก็รู้จักกันอยู่แล้วครับ รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ ต้องการที่จะไปคุยกับนายวิษณุอยู่แล้ว ไม่มีใครแนะนำใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ไม่ครับ เราทำงานเป็นทีมอยู่แล้ว ทีมผมที่ทำงานอยู่ในทำเนียบฯ ก็รู้จักอยู่แล้ว โดยเฉพาะ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ก็รู้จักกับนายวิษณุดีอยู่แล้ว
   
  เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายกังวลแทน เนื่องจากนายวิษณุเคยอยู่ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ จึงเกรงว่าจะมีการวางยาหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า " ถ้ากลัวตรงนี้ ก็คงไม่ไปชวนท่านมาหรอกครับ" เมื่อถามย้ำอีกว่า นายวิษณุก็พร้อมที่จะช่วยงานรัฐบาลทุกด้านใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าทุกด้านดีกว่า แต่เป็นการช่วยงานตามที่มีการพูดคุยกัน ตอนนี้ขอให้รอดูคำสั่งก่อนเพื่อความถูกต้อง 
  
   ด้าน นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาคณะรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ได้มีการพูดคุยกับนายกฯ เรื่องคำสั่งแต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ในรัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แต่ต้องรอดูคำสั่งอีกที และแต่งตั้งโดยอาศัยอำนาจกฎหมายใด เพราะจนถึงขณะนี้ตนเองก็ยังไม่เห็นคำสั่ง เมื่อถามว่า จะได้เห็นนายวิษณุที่ทำเนียบรัฐบาลใช่หรือไม่ นางณัฐฎ์จารี กล่าวว่า ก็ต้องดูว่านายกฯ มีคำสั่งให้นายวิษณุมาปฏิบัติหน้าที่จริงหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ตนไม่กล้าที่จะพูดแทนหน้าที่ ซึ่งน่าจะอยู่ระหว่างการตัดสินใจ
    
 ส่วนการที่นายกฯ แต่งตั้งนายพิชิตเป็นรัฐมนตรี ซึ่งมีการโยงมาที่เลขาคณะรัฐมนตรีด้วย รออยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ก็อาจจะโดนหางเลขในกระบวนการตัดสินคดีนี้ด้วยนั้น นางณัฐฎ์จารี กล่าวว่า  สำนักเลขาคณะรัฐมนตรีมีหน้าที่ในส่วนนี้ด้วย แต่เชื่อมั่นว่าสามารถชี้แจงได้ มีเหตุมีผล และสีแสดได้ทุกเรื่องที่เป็นข่าว แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการตรวจคุณสมบัติรัฐมนตรีแต่อย่างใด โดยไม่ได้เลือกปฏิบัติ
    
 ยืนยันว่า แม้เป็นข้าราชการก็ไม่ได้ลำบากใจในการชี้แจง แต่ลำบากใจข่าว พร้อมกับอมยิ้มและกล่าวว่า ความจริงก็คือความจริง มีเหตุผลทุกอย่าง ไม่ก้าวล่วงเรื่องการเมือง และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยจะชี้แจงด้วยความเป็นจริง
    
 นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ได้เปิดเผยกับเนชั่นทีวี ถึงการพูดคุยกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านพัก กระทั่งมีข่าวว่านายกฯ เซ็นคำสั่ง แต่งตั้ง เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการ ครม. ว่า ยอมรับว่าได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักเลขาครม.จริง โดยตำแหน่งนี้เป็นการพูดคุยกับสำนักเลขาธิการ ครม. หลังจากตนพ้นตำแหน่งรองนายกฯ ไว้นานแล้ว ซึ่งพอท่านนายกฯทราบข่าว ก็มาเรียนให้ตนทราบว่าจะมีการลงนามแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการครม. โดยก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการ ครม. ซึ่งเขาจะมีการปรับระบบ ระเบียบของเอกสาร งาน สลค. และครม. มาก่อน ว่าจะให้มาเป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้ตำแหน่งดังกล่าว ไม่ใช่ตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ไม่มีอัตราเงินเดือน หรือต้องแสดงบัญชีหนี้สินทรัพย์สินอะไร และก็ไม่เหมือนตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ แต่อย่างใด
    
 ได้พบนายกฯเศรษฐาที่บ้านพัก โดยนายกฯ คงจะมาบ้านใครสักแห่ง และอยู่ใกล้ๆบ้านผม จึงแวะเข้ามาพบปะพูดคุย ซึ่งคุยกันหลายเรื่อง ท่านยังเล่าถึงการเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ยุโรป ฝรั่งเศส รวมถึงที่เป็นประเด็นข่าว เกี่ยวกับ 40 สว. ยื่นคำร้อง ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบท่านนายกฯ ก็พูดคุยคือพูดคุยกันหลายเรื่อง ส่วนเป็นการปรึกษาด้วยการให้ผมไปเป็นหัวขบวน ชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่ผม ต้องเป็นคุณพิชิต ชื่นบาน เป็นหัวขบวน และตอนนี้ เขา( สำนักเลขาครม.) ก็มีการเตรียมการ ทำคำชี้แจง ล่วงหน้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว นายวิษณุ กล่าว
    
 เมื่อถามว่า เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา สลค.แล้ว จะปูทางสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่านี้หรือไม่ หรือตำแหน่งรองนายกฯ นายวิษณุ ปฏิเสธว่า ไม่ขอรับตำแหน่งใดทางการเมือง และตอนนี้ก็พักรักษาตัวดูแลสุขภาพ