นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง เปิดเผยภายหลังการประชุมที่ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง (27 พ.ค.) เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดเช่ารถเก็บขนมูลฝอยที่กำลังจะเริ่มทยอยหมดสัญญาเช่าเดิมในเดือน ก.ย.นี้ว่า ได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม นำโดย นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม นายภาณุวัฒน์ อ่อนเทศ รักษาการผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการมูลฝอย สำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักสิ่งแวดล้อม และทีมงานร่างข้อกำหนดขอบเขตการประกวดราคา (TOR) เช่ารถเก็บขนขยะ ได้ข้อสรุปว่า ผู้บริหาร กทม.ยังยืนยันจัดเช่ารถเก็บขนขยะระบบไฟฟ้าทดแทนระบบน้ำมันเดิมที่กำลังจะหมดสัญญาอีกประมาณ 3-4 เดือนข้างหน้า โดยการจัดเช่ารถอายุไม่เกิน 7 ปี มาใช้ก่อนเป็นเวลา 270 วัน เนื่องจากการร่าง TOR เพื่อประกวดราคาตามโครงการเช่ารถขยะไฟฟ้าระยะเวลา 5 ปี ที่มีการของบประมาณไปแล้วยังดำเนินการไม่เสร็จ ติดปัญหาข้อกำหนด TOR เดิมเป็นข้อกำหนดสำหรับรถระบบน้ำมัน ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถจัดหารถระบบไฟฟ้าตามคุณสมบัติที่กำหนดได้ทันเวลา
เนื่องจากรถระบบไฟฟ้าต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่และส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติม ทำให้มีน้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นจากข้อกำหนดเดิมถึง 2 ตัน จึงมีการหารือเพื่อจะลดข้อกำหนดคุณสมบัติรถลง เช่น ความหนาของเหล็กและขนาดอุปกรณ์บางส่วน เพื่อให้มีน้ำหนักเบาลง ทดแทนน้ำหนัก 2 ตันที่เพิ่มขึ้นมา โดยคงประสิทธิภาพของตัวรถและการขนขยะให้ได้ปริมาณตามข้อกำหนดของรถประเภทต่าง ๆ
ที่ประชุมมีการตั้งข้อสังเกตว่า การเช่ารถระบบไฟฟ้าชั่วคราวระยะเวลา 270 วัน ตามแผนของ กทม. อาจไม่ทันสัญญาที่กำลังจะหมดลง เนื่องจากระยะเวลาเหลือน้อย ขณะกระบวนการต้องผ่านสภากรุงเทพมหานคร และการจัดสรรงบประมาณ จึงมีการเสนอให้จัดเช่ารถระบบน้ำมันทดแทนในกรณีฉุกเฉิน เพื่อไม่กระทบต่อการจัดเก็บขยะให้ประชาชน รวมถึง มีการตั้งข้อสังเกตว่า กรณีการจัดเช่ารถระบบไฟฟ้าอายุไม่เกิน 7 ปี ระยะเวลา 270 วัน เมื่อจัดเช่าได้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดแล้ว จะมีการต่อสัญญาจัดเช่าชั่วคราวต่อไปเรื่อย ๆ หรือไม่ ซึ่งอาจกลายเป็นข้อกังขาเรื่องความโปร่งใส เนื่องจากการเช่าดังกล่าวไม่ได้เปิดให้มีการประกวดราคา และไม่ใช่รถที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดของ กทม. แต่เป็นการเช่าฉุกเฉินเพื่อรอการร่าง TOR โครงการเช่ารถเก็บขนขยะระบบไฟฟ้า ระยะเวลา 5 ปี เท่านั้น
นายสุทธิชัย กล่าวว่า คณะกรรมการร่าง TOR จะกลับไปทบทวนเพื่อแก้ไขการร่างข้อกำหนดจัดเช่ารถระบบไฟฟ้าตามโครงการระยะเวลา 5 ปี อีกครั้ง ปัจจุบันยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด เนื่องจากจัดหารถตามข้อกำหนดไม่ได้ โดยสัปดาห์หน้าจะมีการติดตามหารือความคืบหน้าอีกครั้ง ก่อนนำเรื่องรายงานต่อสภา กทม.ต่อไป
ต่อการตั้งข้อสงสัยจากหลายฝ่าย เรื่องความโปร่งใสในโครงการเช่ารถขยะไฟฟ้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงโครงการเช่ารถขยะระบบไฟฟ้า ในงานแถลงข่าววาระทำงานครบ 2 ปีวันนี้ (28พ.ค.)
โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องขยะเป็นตัวอย่างวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกมานาน มีผลประโยชน์มหาศาลและหยั่งรากลึก ที่ผ่านมายังไม่มีใครกล้าแตะ เป็นเรื่องท้าทายของ กทม.นำโดยนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งไม่ง่าย เพราะข้าราชการคุ้นชินกับรูปแบบเดิม ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะเรื่องนี้มีผลประโยชน์แอบแฝงมานาน ดังนั้น การกล้าเปลี่ยนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องขอบคุณนายจักกพันธุ์ ผิวงาม
ด้านนายจักกพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องรถขยะมีทั้งหมด 6 สัญญา จะเริ่มทยอยหมดสัญญาเดือน ก.ย.เป็นต้นไป โดยการเช่ารถเก็บขนขยะเน้นระบบไฟฟ้า สภาพต้องใช้งานได้ ทั้งนี้ ตนเองทำงานใน กทม.มานาน รับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นครั้งที่ 2 ไม่เคยมีเรื่องโกงกิน
“หากกรณีผมทำงานนี้แล้วมีปัญหาเรื่องโกงกิน ผมประกาศเลยนะครับ ผมจะลาออก นี่คือเรื่องจริง กรณีมาชี้หน้าว่าผมเป็นคนโกงกินผมรับไม่ได้ เพราะผมทำงานไม่เคยเป็นคนเช่นนั้น เรื่องเตาเผาขยะผมลาออกมาแล้ว ถามว่าถ้าผมทำงานต่อตอนที่เตาเผาขยะ 2 เตานั้นเกิดขึ้นมา ผมจะรวยไหม ผมรวยไม่เป็นครับ แต่ทำงานที่ถูกต้องผมพร้อมทำ“ นายจักกพันธุ์ กล่าว