วันที่ 28 พ.ค.2567 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4  พร้อมด้วยพล.ต.ต.ณัฐนนท์  ประชุม   รอง ผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส   ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์  คงศิริสมบัติ  รอง ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์  รอง ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.สมภพ กองสมบัติ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายณัฐพล สุขหา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่  127/1 ม.10 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก  จังหวัดเพชรบูรณ์   พร้อมของกลางเฮโรอีน จำนวน 380 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 139 กก.  รถยนต์กระบะ เชฟโลเลต  สีขาว หมายเลข ทะเบียน ขอ-9025 ชลบุรี จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรสจชุดสืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 จับกุมตัวได้ขณะลำเลียงเฮโรอีนดังกล่าว ผ่าน อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

ทั้งนี้ พล.ต.ท.สรายุทธ  กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.4 ได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายกลุ่มผู้กระทำผิดยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดลอตใหญ่ จากประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามน้ำโขงเข้ามาในประเทศไทย ผ่าน จ.บึงกาฬ เพื่อที่จะขนเข้าไปพื้นที่ตอนในของประเทศจึงสั่งการให้ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส  ผบก.สส.ภ.4  นำกำลังลงพื้นที่แนวชายแดน ระหว่าง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ต่อเนื่องกับ อ.บ้านแพง จ.นครพนม โดยวางกำลังตามเส้นทางที่คาดว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติด

จนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยว่าจะเป็นรถที่ใช้ในการขนยาเสพติด ซึ่งตรงกับที่สายรายงานมาคือ รถยนต์กระบะยง สี่ประตู สีขาว ขับอยู่บนถนนสาย 212  พื้นที่บ้านดงชมพู ม.7 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ และเลี้ยวเข้าถนนสาย 2026 ขงด้วยความเร็ว 

ซึ่งจากการวิเคราะห์แล้วเชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่กำลังลักลอบขนยาเสพติด จึงได้แจ้งกำลังทำการสกัดเพื่อตรวจสอบและสามารถสกัดได้บนถนนสาย 2026 และควบคุมคนขับได้ทราบชื่อ นายณัฐพล สุขหา อายุ 29 ปี และจากการตรวจสอบภายในรถพบกระสอบห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ จำนวน 3 กระสอบ อยู่ภายในห้องโดยสาร เมื่อเปิดกระสอบพบเฮโรอีน จำนวนมากจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.บึงโขงหลง จากการตรวจนับของกลางพบว่าเป็นเฮโรอีน จำนวน 380 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 139 กก. ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า พึ่งพ้นโทษจำคุก ในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังออกจากคุกก็ไม่มีงานทำ จึงรับจ้างจากนายทุนรายหนึ่ง ทำการขนเฮโรอีนทั้งหมด ไปส่งมอบให้เครือข่าย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ในจำนวนค่าจ้าง 100,000 บาท แต่ยังไม่ได้ค่าจ้างเพราะยังส่งสินค้าไม่สำเร็จ

 

โดย ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า  จากข้อมูลทราบว่าเฮโรอีนดังกล่าวอยู่ใน เครือข่ายของนายทุน จะส่งออกไปยังประเทศที่สาม ซึ่งหากส่งขายได้จะมีมูลค่า 280 ล้านบาท ซึ่งเฮโรอีนล็อตนี้ ในเบื้องต้นพบว่าประทับตรา สิงโตเหยียบโลกไว้บนพสลาสติกที่ห่อหุ้มอย่างแน่นหนา เชื่อได้ว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งต่อกันเป็นทอดๆ และข้ามโขงมายังประเทศไทย โดยใช้พื้นที่ทางภาคเหนือเป็นที่พักยาเสพติดก่อนจะลักลอบส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังนายทุนที่สั่งการและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพติด ให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย พร้อมควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.บึงโขงหลง ดำเนินคดีคามกฏหมายต่อไป