แน่นอนว่าการทำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะคุ้มครองคุณได้ในยามเจ็บป่วย แต่การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย และได้ผลที่สุดแบบหนึ่ง ที่ช่วยเสริมสุขภาพของคุณให้แข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย เพียงแค่มีรองเท้าวิ่งสักคู่ ก็สามารถออกไปวิ่งได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังได้ประโยชน์มากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งประโยชน์ของการวิ่งนั้น มีอะไรบ้าง และการวิ่งอย่างถูกวิธีทำอย่างไร มาดูกัน

ประโยชน์ของการวิ่ง

เผาผลาญไขมันได้อย่างดีเยี่ยม

การวิ่งเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเผาผลาญแคลอรีได้เป็นอย่างดี โดยการวิ่งเพียง 30 นาที ด้วยความเร็วปานกลาง สามารถเผาผลาญไขมันได้ถึง 300-400 กิโลแคลอรี ซึ่งช่วยควบคุมน้ำหนัก และลดความอ้วนได้ดีเยี่ยม

ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และบริหารข้อเข่า

นอกจากการวิ่งจะช่วยเผาผลาญไขมันแล้ว ยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อส่วนล่าง เช่น ต้นขา น่อง และสะโพก ให้แข็งแรงขึ้น รวมทั้งช่วยบริหารข้อเข่า ทำให้ลดความเสี่ยงของอาการปวดเข่า หรือเข่าเสื่อมได้อีกด้วย

ลดความเครียดสะสม ทำให้อารมณ์ดี

ขณะวิ่ง ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และมีความสุข ซึ่งช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลที่สะสมมาจากการทำงาน หรือชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด

เมื่อเราวิ่ง หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น ลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคหัวใจได้ รวมถึงช่วยเพิ่มความจุของปอด ทำให้ระบบหายใจแข็งแรงอีกด้วย

ห่างไกลโรคร้ายหลายประเภท

งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า การวิ่งอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจแล้ว ยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วนได้อีกด้วย

วิธีการวิ่งที่ถูกต้อง และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

วิ่งแบบค่อยเป็นค่อยไป

เพื่อให้การวิ่งออกกำลังกายนั้นปลอดภัย และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ควรเริ่มต้นด้วยการวิ่งในระยะทางสั้น ๆ ก่อน ประมาณ 10-20 นาทีต่อครั้ง แล้วค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาขึ้นเป็น 30-40 นาที พร้อมทั้งอุ่นเครื่องร่างกายด้วยการเดิน หรือวิ่งเหยาะ ๆ สัก 5 นาที ก่อนวิ่งจริง และหลังวิ่งเสร็จก็ควรคูลดาวน์ด้วยการเดินต่ออีก 5 นาที

ให้ความสำคัญกับรองเท้า

ควรสวมรองเท้าวิ่งที่เบา และมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ควรวิ่งบนพื้นผิวที่แข็งเกินไป หรือนุ่มจนยุบตัว และไม่ควรวิ่งหนักเกินไปจนร่างกายไม่ไหว ในช่วงแรกอาจวิ่งสลับกับการเดินเร็ว แล้วค่อย ๆ เพิ่มความหนักขึ้นเมื่อร่างกายแข็งแรงพอ 

ไม่จำเป็นต้องวิ่งทุกวัน

ไม่ควรวิ่งเป็นประจำทุกวัน เพราะร่างกายก็ต้องการวันพัก เพื่อกู้สภาพ และสร้างความแข็งแกร่ง จึงควรวิ่งสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนวันที่เหลือ สามารถหาวิธีการออกกำลังกายในรูปแบบอื่น ๆ บ้างก็ได้ เพื่อความหลากหลาย

คุ้มครองชีวิตให้มากขึ้นด้วยประกันชีวิตจาก SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต

ถึงแม้ว่าการ “วิ่ง”จะ มีประโยชน์มากมายแค่ไหน แต่การวิ่งก็ช่วยคุ้มครองสุขภาพเราได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น การทำประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มความคุ้มครองชีวิตให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในกรณีเจ็บป่วย หรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต พร้อมดูแลคุณด้วยประกันหลากหลายรูปแบบ ทั้งประกันชีวิต , ประกันสุขภาพ และประกันออมทรัพย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาเรื่องรายละเอียดของกรมธรรม์ได้ที่ LINE Official @THAIGROUP และ Call Center โทร 0 2255 5656