จากกรณี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เข้าช่วยเหลือ สามีช้ำใจพาภรรยาเข้าวงการสวิงกิ้ง แต่ภรรยากลับติดใจสานสัมพันธ์กับข้าราชการชั้นสูงในกลุ่มสวิงกิ้ง นัดมีเพศสัมพันธ์กันตลอดเวลา ถ่ายวิดีโอคอลระหว่างมีอะไรกันให้สามีดูด้วย แชทคุยกันหวานชื่นเรียกผัวเมีย สามีตัดพ้อใบสมรสเป็นแค่กระดาษใบเดียว
วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สัมภาษณ์นายเอ (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตอนคบกับภรรยามาประมาณ 10 กว่าปี โดยจุดเริ่มต้นรสนิยมแบบนี้มาจากตนที่ต้องการความสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง จึงได้ชักชวนภรรยาให้เริ่มมามีเพศสัมพันธ์แบบ 2 ต่อ 1 โดยมีความสัมพันธ์แบบนี้เป็น 10 ปีแล้ว เนื่องจากช่วงนั้นยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นจึงอยากรู้อยากลอง และในการที่มีความสัมพันธ์แบบนี้ ทางนายเอได้ตั้งกฎกติกาไว้ว่าทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์ นายเอ สามีต้องอยู่ด้วยทุกครั้ง และหลังเสร็จกิจจะต้องไม่มีการสานสัมพันธ์เชิงชู้สาวต่อ
และทุกครั้งจะให้เกียรติภรรยาเป็นคนเลือกคู่ที่จะมาสวิงกิ้ง ส่วนตัวเองจะทำหน้าที่เป็นคนคอยดูข้อมูลให้เชื่อถือ และทุกครั้งคนที่นัดมาจะต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหากับการมีความสัมพันธ์แบบนี้หลังเสร็จกิจทั้งคู่ก็กลับมาใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยากันตามปกติ
จนกระทั่งทางภรรยาได้เจอกับข้าราชการระดับสูงคนนี้ก็มีท่าทีที่ผิดปกติไปจุดเริ่มต้น มาจากการนัดคุยกันในกลุ่มเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คุยกันมาประมาณ 2-3 เดือน ก็พากันไปมีเพศสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง 2-3 ครั้ง ซึ่งในช่วง 2- 3 ครั้งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ได้มีการสานสัมพันธ์กันในเชิงชู้สาว จนกระทั่งช่วงหลังภรรยามีท่าทีที่ผิดปกติเริ่มสนใจนายเอน้อยลง จนมาทราบว่าทางข้าราชการระดับสูงคนนี้มีปัญหาครอบครัวทางภรรยาจึงไปเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้ ก่อนจะมีการสานสัมพันธ์กันจนเลยเถิด
นายเอ เปิดเผยว่า ในบทสนทนาเห็นทางภรรยาและข้าราชการระดับสูงคนนี้คุยกันในเชิง ชู้สาวมีการแทนตัวเองว่า “ผัว-เมีย” และบทสนทนาในข้อความก็ไม่ได้เป็นการให้คำปรึกษาแต่เป็นการชักชวนกันไปมี เพศสัมพันธ์นอกจากนี้ยังบอกรักบอกคิดถึงกันอยู่เสมอ และทุกครั้งภรรยาก็จะไปตามนัด เนื่องจากทางข้าราชการระดับสูงคนนี้ ได้เสนอของที่เป็นสิ่งจูงใจ เริ่มจากสิ่งของชิ้นเล็กๆ จนกระทั่งเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือ จนไปถึงกระทั่งรถหรู
นายเอบอกว่า ส่วนประเด็นช่วงที่วิดีโอคอล ช่วงนั้นยังอยู่ในกติกาที่ตกลงกันไว้เนื่องจากตอนนั้นตนไม่สามารถไปตามนัดที่ตกลงกันไว้เนื่องจากติดธุระจึงได้ให้ทั้งคู่ไปมีความสัมพันธ์และวิดีโอคอลมาหาตนสำหรับตอนนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะทุกอย่างยังอยู่ในกติกา
จากบทสนทนาระหว่างภรรยาและข้าราชการดังกล่าวที่พูดคุยกันมันเป็นการนอกกติกา ก็เลยได้มีการคุยกับทางภรรยาและทางข้าราชการระดับสูง ถ้าหยุดพฤติกรรมดังกล่าวแต่ทางข้าราชการระดับสูงอ้างว่า” ไม่เป็นไร เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต“ ทางด้านภรรยาก็ทำเป็นเมินเฉยไม่สนใจตนพร้อมได้ตนออกจากบ้านจนตอนนี้ครอบครัวแตกแยกตนก็ไม่มีงานทำขาดรายได้ตอนนี้ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว
สุดท้ายนี้ได้ฝากไปยังข้าราชการระดับสูงว่าจะต้องเป็นคนรับผิดชอบในเรื่องนี้เนื่องจากเป็นคนแทรกกลางทำให้ครอบครัวของตนและภรรยาต้องแตกแยกพร้อมปั่นหัวลูกสาวจนทำให้ขณะนี้ตนเป็นเพียงคนอื่นภายในครอบครัว เขาบอกว่าจุดที่ผิดพลาดของ เป็นเพราะตนเองไม่มีฐานะไม่มีเงินที่จะสามารถมาถ ปรนเปรอภรรยาได้เท่ากับข้าราชการระดับสูงคนนั้น จึงเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ข้าราชการคนดังกล่าวเข้ามาแทรกกลางระหว่างตนและภรรยา
เบื้องต้นจะมีการเดินทางไปกระทรวงต้นสังกัดในเวลา14.00น. เพื่อยื่นสอบวินัย ข้าราชการระดับสูงคนดังกล่าว