กรณีนายชัยวัฒน์ เขมา หรือ “โก๊ะ คลองสองต้นนุ่น” อายุ 43 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายชัยยุทธ อายุ 41 ปี น้องชาย อาชีพพนักงานส่งก๊าซ ถึงแก่ความตายเหตุเกิดที่ บ้าน ภายในชุมชนสามัคคีคลองสองต้นนุ่น  แขวงและเขตมีนบุรี กทม. เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ดูหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป 

ความคืบหน้าคดีนี้เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 26 พ.ค. พ.ต.ท.ธนาเดช หนูเอียด รอง ผกก.(สอบสวน)สน.มีนบุรี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญามีนบุรี เพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ต่อมาศาลอาญามีนบุรี ออกหมายจับเลขที่ จ. 740/2567 ลงวันที่ 26 พ.ค. 67 ให้จับกุม นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ เขมา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยามยามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 

ต่อมาเวลา 01.30 น. วันเดียวกัน ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีชายแต่งกายลักษณะคล้ายกับนายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ผู้ก่อเหตุ กำลังเดินเท้ามุ่งหน้าไปที่ สน.มีนบุรี ขณะนั้นทางพยานและญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตรวมตัวกันอยู่ที่ สน.มีนบุรี เกรงว่าจะมาก่อเหตุซ้ำ จึงได้ออกมาทำการตรวจสอบ พบนายชัยวัฒน์ หรือโก๊ะ กำลังเดินเลียบถนนสีหบุรานุกิจมายัง สน.มีนบุรี ตามที่ได้รับแจ้งจริง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกแบบรีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิทธิ์ แอนด์ เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พกอยู่ที่เอว พร้อมทำการจับกุมตัวตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี

จากการสอบสวน นายชัยวัฒน์ หรือโก๊ะ รับสารภาพว่า ตนเคยถูกจำคุกในคดีทำร้ายร่างกายภรรยามาก่อน เมื่อพ้นโทษ ไม่ได้ทำงาน เก็บตัวอยู่ในบ้าน ตนมีความโกรธเคืองคนในครอบครัว คอยพูดจาเหยียดหยามอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความคับแค้นใจ ได้จัดเตรียมอาวุธปืนดังกล่าวมาประมาณ 3 วันแล้ว ต่อมาถูกผู้ตายและคนในครอบครัวพูดจาดูหมิ่นอีก จึงได้นำเอาอาวุธปืนดังกล่าววิ่งลงมาจากบนบ้านยิงใส่นายชัยยุทธน้องชายเสียชีวิต และหันปืนจะยิงใส่แม่ พ่อเลี้ยง และน้องชายที่เป็นออทิสติก อีก แต่กระสุนปืนในลูกโม่หมดเสียก่อน จึงมีแต่เสียงดังแชะ ๆ ทำให้ แม่ พ่อเลี้ยง และน้องชาย รอดตาย และจะไม่ขอโทษ แม่ และพ่อเลี้ยง เนื่องจากได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว  

เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแจ้งข้อกล่าวหานายชัยวัฒน์ ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยามยามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลอาญามีนบุรีต่อไป