“ประกิต”ขอบคุณ “อนุทิน” เร่งปราบบุหรี่ไฟฟ้า ยันเป็นอันตรายต่อเยาวชน-จุดเริ่มต้นสู่ยาเสพติดร้ายแรง หลังพบเด็ก10ขวบสูบกันแล้ว
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวภายหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำกำลังฝ่ายปกครองสนธิกำลังตำรวจับโกดัง บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย มูลค่าของกลางกว่าร้อยล้านบาท ที่ จ.สมุทรสาคร ว่า ต้องชื่นชมจุดยืนในส่วนนี้ ของนายอนุทิน ที่ หนักแน่นมาตั้งแต่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งท่านมีกำลังฝ่ายปกครองอยู่ในมือ ก็เชื่อว่าจะพึ่งพาได้ บางคน อาจจะมองว่า เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องเล็ก สูบกันทั่วบ้านทั่วเมือง เห็นอยู่ว่าผิดกฎหมายแต่ก็ไม่จับ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทั้งที่จริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายมากโดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน
ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวต่อว่า รู้หรือไม่ ปัจจุบันนี้ เด็ก 10 ขวบ ก็สูบบุหรี่ไฟฟ้ากันแล้ว เพราะมันเข้าถึงง่าย สูบง่าย เสพง่าย ติดง่าย กลิ่นหอม แล้วสูบกันตั้งแต่ยังเล็กแบบนี้ยิ่งเป็นอันตรายต่อสมอง พอสูบจนติดเข้าก็มีผลต่อพฤติกรรม นั่งเรียนอยู่ ก็ไม่มีสมาธิ คิดแต่จะไปเอานิโคตินเข้าสู่ร่างกายเพราะมันติดไปแล้ว จะบอกว่าบุหรี่ไฟฟ้ามันทำลายสมอง ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็กแน่นอน แล้วบุหรี่ไฟฟ้า มันจะเป็นจุดเริ่มต้นพาเด็กไปติดยาเสพติดชนิดอื่นด้วย อย่ามองข้ามอันตราย
“สมองของเด็ก มันควรต้องเติบโต ตามธรรมชาติ แต่นี่ไปสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันตั้งแต่ 9 ขวบ 10 ขวบ แล้วสมองมันจะดีได้อย่างไร ที่แน่นอนคือ มันกระทบกับพัฒนาการ ไม่มีสมาธิ ในการดำเนินชีวิต และเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะเกิดการเสพติดนิโคตินไปตลอดชีวิต ซึ่งเป็นสารเดียวกันกับที่มีอยู่ในบุหรี่ธรรมดา นิโคติน นี่มีอยู่ในยาฆ่าแมลง แต่เราสูบเข้าร่างกาย คิดดูว่า มันมีพิษภัยขนาดไหน นอกจากนั้นการที่บุหรี่ไฟฟ้าเสพง่าย เข้าถึงง่าย จึงไม่จำกัดวงของผู้ใช้ที่ผู้ชายอีกต่อไปเพราะปัจจุบันนี้ผู้หญิงก็ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันเยอะมาก สัดส่วนพอๆกับเพศชายแล้ว”
ศ.นพ.ประกิต กล่าวอีกว่า ผู้ปกครองร้องเรียนกันเข้ามามากว่าบุหรี่ไฟฟ้าทะลักเข้าไปในโรงเรียนมีการขายอยู่ในสถานศึกษา หาซื้อกันง่ายใครก็ซื้อได้ พ่อแม่เห็นไม่สบายใจ แต่ที่ร้ายแรงกว่าคือมันมีผลต่อสมองของผู้ใช้ซึ่งก็ยังเป็นเด็กและเยาวชนเป็นอนาคตของชาติทั้งนั้น
“ การที่มีฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในการปราบบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นข่าวดี ยิ่งถ้าทุกจังหวัด เข้มข้นพร้อมกัน รับรองว่าได้รับเสียงชื่นชมจากพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งประเทศ นี่คือการช่วยเซฟอนาคตของชาติ ก็ต้องขอบคุณนายอนุทิน ที่ทำเรื่องนี้มาตลอด เราไม่มีกำลังพอที่จะจัดการกับผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกคน แต่เราสามารถที่จะจัดการพ่อค้ารายใหญ่ได้ซึ่งถ้าทำตรงนี้สำเร็จเชื่อว่าจะลดปริมาณบุหรี่ไฟฟ้าในสังคม และเป็นการปกป้องเยาวชนปกป้องอนาคตของประเทศชาติ”
