ที่ บก.สส.บช.น. เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.อธัญญาพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.บก.น.4 พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.บช.น. , กก สส.บก.น.4 ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบยิง นายพิชิต กลีบจินดา หรือเสี่ยต้น อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เหตุถูกลอบยิงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ก่อนไปเสียชีวิตในภายหลังที่ จ.มหาสารคาม
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า ทาง บช.น.ประสานงานกับ ตำรวจภูธรภาค 4 ในคดีพยายามฆ่า ซึ่งวันนี้ชัดเจนว่าเป็นพฤติการของมือปืนรับจ้าง ซึ่งรับงานโดยมีผู้ใช้จ้างวานให้มาก่อเหตุแม้ห้วงเวลาดังกล่าวผู้ตายถูกยิงที่ตัวรถ แต่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษกระจกบาด ยืนยันพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้าง ไม่ใช่เรื่องทะเลาะวิวาท โดยไล่เรียงจากไทม์ไลน์วงจรปิดพบว่า นายพิชิต ผู้ตายได้เดินทางมาที่โรงเหล้าย่านเอกมัย ประมาณเวลา 22.46 น. จากนั้นเพียง 22.50 น.เพียง 4 นาที คนร้ายขับขี่รถ จยย.มา 2 คน ขับขี่รถตามผู้ตายมา ทำให้ชุดสืบสวนเชื่อมั่นว่ามีการตระเตรียมการ และวางแผนอย่างดี และย่อมรู้ว่าผู้ตายมาที่โรงเหล้าแห่งนี้ ฉะนั้นต้องมีคนชี้เป้า จากนั้นคนร้ายขับขี่รถมาจอดรอ และคนร้ายขี่ จยย.วนกลับมาร้านเหล้าอีกครั้ง ก่อนไปหลบหลังกำแพง จากนั้นคนร้ายลงมาเช็คที่รถผู้ตายว่าใช่หรือไม่ เพื่อเช็คว่าเป้ายังอยู่แน่นอน
พล.ต.ต.นพศิลป์ เผยอีกว่า ต่อมาผู้ตายเดินออกจากร้านเหล้า เวลา 23.33 น.ใช้เวลาอยู่ในร้าน 47 นาที หลังจากนั้นผู้ตายขึ้นรถ และขับรถออกมุ่งหน้าถนนเลียบด่วน และกลับรถเพื่อขึ้นทางด่วน กระทั้งพบจุดที่คนร้ายขับรถ จยย.ตามประกบก่อเหตุยิง ก่อนหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลทั้งหมดแล้วพร้อมตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีเกี่ยวเนื่องกับทางตำรววจภูธรภาค 4 นั้น วันนี้จึงมีการประชุมร่วมกับภาค 4 ว่าพยานหลักฐานทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้าง ยืนยันว่าคดีนี้และทุกคดีทางนครบาลไม่เคยละทิ้ง แต่จำเป็นที่ต้องทำคดีแบบเงียบ มอเช่นนั้นคนร้ายอาจรู้ตัวได้ รวมถึงทำลายหลักฐานด้วย ตนขอพูดเฉพาะอะไรที่เป็นประโยชน์ทางคดีเท่าที่พอจะพูดได้ และจะเร่งรัดทำคดีให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่าหลักฐานเพียงพอต่อการออกหมายจับคนร้ายหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ ตอบว่า ทุกอย่างยึดโยงด้วยพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และแวดล้อม และวัตถุ นิติวิทยาศาสตร์ ต้องรอบครอบ รัดกุมทุกมิติ เพื่อยืนยันต่อศาลในการออกหมายจับ
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยด้วยว่า ทั้งนี้ข้อมูลการสืบสวนให้ได้เพียงบางส่วนเพราะกลัวจะเสียรูปสำนวนคดี โดยเชื่อว่าพลังโซเชียล และประชาชนที่ให้ความสนใจกับเหยื่อที่ถูกทำร้าย หากท่านใดพบหรือเคยเห็น และมีข้อมูล รู้ที่อยู่ของคนร้ายทั้งสองรายขอให้แจ้งเบาะแสมาที่เพจสืบนครบาล รวมทั้งประเด็นความขัดแย้งต่างๆ ว่าผู้ตายกระทบกระทั่งกับผู้ใด ก็สามารถแจ้งมาได้ เราพร้อมจะรับข้อมูลและตรวจสอบทุกเรื่องด้วย