“บิ๊กทิน“ ลั่นฝึกทหารต้องให้เข้มแข็ง ไม่ใช่ฝึก “หมอลำ“ ยันไม่เอาข้าวเก่า 10 ปีมาให้กินแน่นอน

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 นาย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมการฝึก ของทหารใหม่ กรมต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ พร้อมชมการฝึกของทหารใหม่ที่เพิ่งรายงานตัวได้3 สัปดาห์แต่ก็สามารถฝึกท่าบุคคลได้อย่างพร้อมเพรียง เข้มแข็ง

นายสุทิน ชื่นชมว่า แค่3 สัปดาห์กองทัพอากาศยังฝึกได้ดีขนาดนี้จากเป็นพลเรือนมาสู่การเป็นทหารที่มีระเบียบวินัย จากวัยรุ่นที่อยู่บ้านอาจจะอยู่หน้าเวทีรถแห่บางคนอาจติดยาเสพติด เมื่อเป็นพลทหารครบกำหนดแล้วสามารถสมัครเป็นต่อได้และ หากจะต้องการเป็นทหารต่อก็สามารถสมัครเข้าโรงเรียนนายสิบ หรือโรงเรียนจ่าหรือแม้แต่ นายสิบตำรวจ ได้เพราะจะมีคะแนนพิเศษและสามารถเรียนต่อได้จนถึงปริญญาตรี ไม่แน่ว่าในนี้ในอนาคตอาจมีพลเอก เกิดขึ้น หากเรียนจาก รร.นายสิบ หรือจ่าแล้วสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยก็ สามารถที่จะเป็นนายพลได้ เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายคนที่เคยเป็นพลทหาร แล้วก็มาเป็น พลเอกแต่เมื่อมาเป็นทหาร กองทัพก็ฝึกระเบียบวินัยและได้ความแข็งแรงของร่างกายการฝึกทหารชื่อทหารก็บอกอยู่แล้ว ว่า ท.ทหารต้องอดทน การฝึกทหารก็ต้องมีบ้างที่เจ็บ เหนื่อย ง่วง หิว เพื่อฝึกความอดทน ให้เราเพราะการฝึกทหารไม่ใช่การมาฝึกหมอลำหรือฝึกร้องเพลงฝึก เพื่อให้คนไปรบได้ก็ต้องฝึกอีกแบบหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่า ฝึกหนักหนาเหมือนหน่วยซีล หรือนาวิกโยธิน  เหมือนอย่างคนที่เป็นนักมองนักมวยเก่งเก่งเช่นบัวขาวเค้าก็ผ่านการฝึกหนักมาทั้งนั้น ที่ผ่านมามีหลายคน ที่ต้องสู้อดทน นักมวย ที่ฝึกไปร้องไห้ไป

นายสุทิน เดินทักทายทหารใหม่ พูดคุย สอบถาม และพบว่าส่วนใหญ่มาจากภาคอีสาน โดยนายสุทินได้พูดภาษาอีสานกับพลทหาร

นายสุทิน ชื่นชมการฝึกทหารใหม่ที่เข้าประจำการได้เพียง 3 สัปดาห์ ก็มีบุคลิกและร่างกายที่ดีขึ้น เพราะมองว่าหลายคนก่อนหน้านี้เต้นอยู่ หน้าเวทีหมอลำและอยู่หน้ารถแห่ หากผู้ปกครองมาได้เห็นก็จะภาคภูมิใจ

นอกจากนี้  นายสุทิน ยังได้ตรวจกองร้อยโดยดูโรงนอน ห้องน้ำและได้พูดคุยกับพลทหาร ที่ติดยาเสพติดและต้องมาเลิกในค่ายทหารพร้อมให้กำลังใจ

นายสุท้น กล่าวว่า จากรายงานก็ทราบว่า พลทหาร มีติดยาถึง 30% ก็มาเลิกที่นี่ถ้าเปรียบเทียบกับที่ชายแดนภาคใต้ติดยามากถึง 80% ดังนั้นใจต้องแข็งเมื่อเวลาได้กลับไปพักที่บ้านเพื่อนชวน ก็อย่าไป ขอให้นึกถึงอนาคต

นายสุทิน ได้ไปที่โรงเลี้ยง ติดแอร์ และรับประทานอาหารกลางวันกับพลทหาร  ด้วยถาดหลุม โดยเมื่อมาถึงพลทหารได้ท่องบทราชสวัส 10 ประการของทหารคอแดงและบทสะเจ ก่อนการรับประทานอาหาร

มื้อ เป็นอาหารอีสาน ลาบหมู ต้มแซ่บกระดูกหมู ส้มตำปูปลาร้า ปลาดุกย่าง 1 ตัว ข้าวสวย ข้าวเหนียว  โดยปลาดุกย่างนั้นเป็นของโปรดของนายสุทินจึงทำให้มื้อนี้พลทหารได้รับประทานปลาดุกย่างกันด้วย

พร้อมกันนี้ นายสุทิน ได้สอบถามทหารใหม่ถึงอาหารมื้อนี้ เหมือนกับมื้ออื่น ๆ หรือไม่ พร้อมกล่าวว่าทหารอีสานต้องทานข้าวเหนียวด้วย เพื่อให้อยู่ท้อง เพราะเพียงข้าวจ้าวอาจไม่อิ่ม ถ้าให้ดีต้องมีแจ่วบองด้วย พร้อมกล่าวติดตลกว่า ทหารที่มาจากอิสาน จะต้องให้เช็คว่าปลาร้าในกระแสเลือด ลดน้อยลงหรือไม่

นายสุทิน  ย้ำว่า ทหาร ต้องกินดีอยู่ดีอาหารดีแอบสายสืบสุ่มตรวจโรงเลี้ยง พร้อมยืนยันไม่เอาข้าวเก่า 10 ปีมาให้กินแน่นอน เพราะอยากให้มาเป็นทหารกันเยอะๆก็ต้องดูแลดี