นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในปีนี้มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมที่น่าเป็นห่วงอีกหนึ่งจุดคือ ถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมจากปีที่แล้ว ในปีนี้ กทม.มีแผนแก้ไขโดยการขยายขนาดท่อระบายน้ำจากเดิม 80 เซนติเมตร เป็นขนาด 150 เซนติเมตร ตามโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำถนนช่างอากาศอุทิศ ซึ่งมีการของบประมาณปี 2567 มาดำเนินการเบื้องต้นแล้วประมาณ 53 ล้านบาท แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง จึงยังไม่สามารถดำเนินโครงการให้ทันฤดูฝนปีนี้ได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในฤดูฝนปี 2568

 

จากปัญหาดังกล่าว ในปีนี้ กทม.จึงแก้ไขด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั้งหมด 8 เครื่อง ระหว่างต้นซอยและท้ายซอย เพื่อลำเลียงน้ำในท่อระบายน้ำได้รวดเร็วขึ้น และเพื่อให้ท่อระบายน้ำมีพื้นที่รับน้ำเพิ่มเติม โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องสูบน้ำว่า ให้เตรียมเดินเครื่องสูบน้ำให้ทันเวลาฝนตก ซึ่งได้รับรายงานว่า ปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวใช้เวลาสตาร์ทเครื่องสูบน้ำนานเกินไป รวมถึงมีการขโมยแบตเตอรี่และน้ำมันเครื่องสูบน้ำ

 

ด้านนายสาโรจน์ พลฤทธิ์ ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง เปิดเผยว่า ปัญหาของถนนช่างอากาศอุทิศคือ เป็นพื้นที่ใหญ่ แต่มีท่อระบายน้ำขนาด 80 เซนติเมตร ซึ่งไม่เพียงพอ โดยพื้นที่ดังกล่าว สามารถระบายน้ำออกคลองเปรมประชากรได้ทางเดียว ต้องแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 8 เครื่องตลอดช่วงระยะทาง เพื่อสูบน้ำส่งต่อกันเป็นทอด ๆ ระบายลงคลองเปรมประชากร ขณะเดียวกัน ต้องเตรียมเดินเครื่องสูบน้ำก่อนฝนตก และต้องให้สำนักการระบายน้ำช่วยพร่องน้ำในคลองรอบข้าง เช่น คลองคูนายกิมสาย 3 (ข้างถนนสรงประภา) และ คลองตาอูฐ (ซอยหลังชุมชนวัดไผ่เขียว) เพื่อลดปริมาณน้ำในคลองเปรมประชากร เพราะหากน้ำในคลองเปรมฯ เต็ม น้ำจากถนนช่างอากาศอุทิศจะไม่มีทางระบายออกได้

 

ส่วนปัญหาโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำถนนช่างอากาศอุทิศล่าช้า ไม่ทันฤดูฝนปีนี้ เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบการอนุมัติราคากลางจนถึงวันเผยแพร่การประกวดราคา เกินกำหนด 90 วัน จึงต้องยกเลิกกระบวนการ โดยมีการเคาะราคาและได้ตัวผู้รับจ้างแล้วตั้งแต่ประมาณปลายเดือน ธ.ค.66 แต่การลงประกาศยังไม่ครบ 20 วัน ตามระเบียบ อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลางพิจารณาผ่อนผัน หากกรมบัญชีกลางไม่อนุมัติ สำนักงานเขตต้องเริ่มกระบวนการจ้างใหม่ เช่น ทำราคากลาง ขออนุมัติจ้าง การเคาะราคา และการประกวดราคา ต่อไป คาดว่าโครงการจะเสร็จทันฤดูฝนปีหน้า และบรรเทาน้ำท่วมในพื้นที่ได้มากขึ้น