ตำรวจสำโรงใต้ โชว์ผลงานกวาดล้างยาเสพติด จับกุมพ่อค้ายา 2 ราย ของกลาง 6 พันเม็ด และผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 ราย

         พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเรื่องยาเสพติด จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและปราบปราม ติดตามและตรวจสอบ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้สองรายได้พร้อมของกลางเป็นยาเสพติด

          ผู้ต้องหารายแรก คือ นายมงคล อายุ 34 ปี ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ภายในซอยบางหญ้าแพรก หมู่ 15 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ตามและเข้าประชิดก่อนจะบอกกล่าวให้ นายมงคล จอดรถแล้วเข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นพบ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 10 เม็ด ภายในถุงซิป ที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายในซองบุหรี่ ที่เก็บอยู่ในกระเป๋าสะพายข้าง เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวมาขยายผล และส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ผู้ต้องหารายที่สอง คือ นายปรัชญา(หรือขาว) อายุ 36 ปี ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟิน สีขาว-แดง ทะเบียน 5 ขส xxxx กรุงเทพมหานคร บริเวณภายในซอยสุรพล 2 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่สายตรวจได้เรียกให้จอดและเข้าทำการตรวจค้นพบ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) อยู่ภายในถุงซิปสีดำทึบ หุ้มด้วยกระดาษสา สีเหลืองนวล มัดรวมกันเป็นก้อน จำนวน 3 ก้อน โดยแต่ละก้อนมียาบ้า บรรจุอยู่จำนวน 10 ถุง ซึ่งภายในถุงมียาบ้าถุงละ 200 เม็ด รวมทั้งหมด 30 ถุง ยาบ้าทั้งหมด 6,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ 1 (ยาบ้า) (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย เพื่อการค้าขายโดยผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          และ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.รักศักดิ์  เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ นำโดย พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์  กัลยา  สว.สส.ฯ พร้อมด้วย ชุดสืบสวน สภ.สำโรงใต้ ได้ติดตามจับกุมตัว นายสรศักดิ์ อายุ 21 ปี ชาว อ.ภูเพียง จ.น่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระประแดง ที่ จ.18/2567 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณถนนทางเข้าที่ทำการ อ.ภูเพียง หมู่ที่ 3 ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน ก่อนจะคุมตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

          โดยในช่วงสาย เวลา 09.30 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ที่ ซอยสยามพัฒนา 7 หมู่ 7 ตำบลบางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.รักศักดิ์  เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่งานป้องกันและปราบปราม ลงพื้นให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด และสาธิตยุทธวิธีการเข้าจับกุมตัวคนคลุ้มคลั่งด้วยไม้ง่าม และไม้จับ ที่ทาง ผู้การฯ ได้ใช้งบประมาณส่วนตัวมอบให้กับทางโรงพัก เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทางประชาชน ก่อนจะเดินเยี่ยมพูดคุยกับประชาชนตามบ้าน

          ต่อมาในช่วงเที่ยง ที่ สภ.สำโรงใต้ พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งชมเชยผลการปฏิบัติที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีจำหน่ายยาเสพติด

          พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด ทาง สภ. สำโรงใต้ได้มีการจับกุมผู้ต้องหา จำหน่ายยาเสพติดของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่สายตรวจเป็นผู้จับกุม ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่ ได้มีการติดตามขยายผลเครือข่าย และยังดำเนินการจับกุมในกลุ่มเครือข่ายของเขาได้อีก 1 ราย ส่วนที่เหลือจะออกหมายจับในคดีสมคบและฟอกเงิน ช่วงนี้การระดมกวาดล้าง โดย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้มอบนโยบายและกำชับ การกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อความสงบสุขของประชาชน และยังมีการติดตามหมายจับค้างเก่า คดีที่ดูแล้วสังคมไม่ปลอดภัย เช่นคดีพยายามฆ่า ได้ไปทำการจับกุมที่จังหวัดน่าน ในมาตรการต่อไปจะเป็นการลงพื้นที่ในชุมชนต่างๆ เพื่อแสวงหาความร่วมมือ ประโยชน์ของการลงชุมชน คือความสามัคคีและเป็นการประสานการปฏิบัติร่วมกันกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ ในเรื่องของยาเสพติดและอาชญากรรม ซึ่งในพื้นที่จะมี ในเรื่องของจิตเวชที่เกิดจากการใช้ยาเสพติดค่อนข้างเยอะ จะมีอาการอาละวาดคุ้มคลั่ง ทาง สภ.สำโรงใต้ให้ความสำคัญและยังมีการฝึกยุทธวิธี ให้กับผู้นำชุมชนและคนในชุมชน ในเรื่องของการใช้ไม้ง่าม ซึ่งไม้ง่ามของจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับความกรุณาจากท่าน ผู้บังคับการฯ ได้ใช้งานส่วนตัว สั่งซื้อไม้งามไฟฟ้า ไว้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่

สำหรับไม้งามไฟฟ้า จะได้ทำการฝึกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ ในส่วนของการลงพื้นที่จะทำการเต็มระบบ จำนวน 64 ชุมชน ในตอนนี้เริ่มมีชุมชนให้ความสนใจ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดลดลงไป สำหรับยุทธวิธีตำรวจได้มอบให้กับ เจ้าหน้าที่สายตรวจ ทุกครั้งที่ก่อนออกปฏิบัติจะมีการตรวจความพร้อม ของอุปกรณ์ต่างๆ ในเรื่องของการปฏิบัติกำชับให้ใช้ ยุทธวิธีให้เป็นไปตามหลัก เพื่อให้เกิดความปลอดภัย