แม้เป็นเพียงแค่ “ยื่นขอ” เท่านั้น ยัง “ไม่ออก” อย่างเป็นทางการ ก็ทำเอาปรอทแทบแตก ด้วยบรรยากาศที่ทวีเดือดจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับ การยื่นขอ “หมายจับ” ของ “ศาลอาญาระหว่างประเทศ” หรือ “ไอซีซี” ซึ่งดำเนินการโดย “นายคาริม ข่าน” ผู้ดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ” อันมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเฮก เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์นี้

โดยหัวหน้าอัยการฯ “คาริม ข่าน” ยื่นขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ ออกหมายจับต่อบุคคล 5 คนในข้อหา “ก่ออาชญากรรมสงคราม” จากการที่บุคคลทั้ง 5 คน เกี่ยวข้องกับการทำสงครามในฉนวนกาซา ที่กองทัพอิสราเอล หรือกองกำลังป้องกันอิสราเอล “ไอดีเอฟ” กำลังโรมรันพันตูกับกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ อยู่ในเวลานี้ นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว เป็นต้นมา

5 บุคคลที่ถูกนายคาริม ข่าน ระบุยื่นขอหมายจับข้างต้น ได้แก่

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล

พล.อ.โยอาฟ แกลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล

นายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

นายโมฮัมเหม็ด อัลเดอีฟ ผู้บัญชาการกองพันอิซอัลดินอัล-คัสซัม ซึ่งเป็นปีกทางทหารของกลุ่มฮามาส หรือกลุ่มติดอาวุธกลุ่มหนึ่งของฮามาส นั่นเอง

นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส

เรียกว่า ทางหัวหน้าอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ ยื่นขอหมายจับต่อทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายอิสราเอล และทั้งของฟากฮามาส หรือโดนทั้งคู่ นั่นเอง

โดยนายคาริม ข่าน แถลงในรายละเอียดว่า ในทางฝั่งของอิสราเอล ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู และพล.อ.แกลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลนั้น ได้กระทำการโจมตีพลเรือนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาอย่างเป็นระบบ และการกีดกันพลเรือนปาเลสไตน์อย่างเป็นระบบอีกด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้เข้าถึงสิ่งจำเป็นแบบขาดไม่ได้ สำหรับความอยู่รอด ได้แก่ อาหาร น้ำ ยา และพลังงาน เป็นต้น ซึ่งแม้อิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องกันพลเมืองของตนเอง จากการที่มีข้ออ้างว่า เพื่อป้องกันพลเมืองของตนเองจากการถูกกลุ่มฮามาสโจมตี แต่ก็ไม่ควรที่จะต้องละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ พร้อมกับระบุว่า อิสราเอลกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในสงครามฉนวนกาซา

ในส่วนของอีกฝั่ง คือ 3 แกนนำกลุ่มฮามาส ที่ถูกยื่นขอออกหมายจับด้วยนั้น ทางนายคาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลไอซีซี ระบุว่า ฮามาสได้ทำลายพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งหมายถึง ความรักภายในครอบครัว ความผูกพันลึกซึ้งระหว่างพ่อ แม่ ลูก ได้ถูกทำลายไปสิ้นเพื่อสร้างความเจ็บปวดในระดับที่ยากจะประเมินได้ ผ่านการกระทำอันโหดร้ายที่คิดไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว อย่างไร้ความปราณีเป็นที่สุด จากการที่พวกเขารุกข้ามพรมแดนเข้าไปก่อเหตุในอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว

ก็ต้อรอการพิจารณาจากศาลอาญาระหว่างประเทศต่อไปว่าจะออกหมายจับอย่างเป็นทางการเมื่อใด

ทว่า แม้ยังไม่ออกหมายจับอย่างเป็นทางการ ก็สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อบรรดาผู้เกี่ยวข้องทั้ง 5 คน รวมถึงผู้นำทางการประเทศอื่นๆ ที่ให้การสนับสนุนในแต่ละฟากฝั่ง

เริ่มจากที่นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ที่เกี่ยวข้องแบบโดยตรง ที่ถึงกับแสดงปฏิกริยาเกรี้ยวกราดโกรธาทันที โดยระบุว่า ถือเป็นความขุ่นเคืองทางจริยธรรมครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งอิสราเอลเพียงแต่ทำสงครามกับกลุ่มฮามาส ที่เป็นองค์กรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่ลงมือโจมตีชาวยิวอย่างเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในยุโรปกว่า 6 ล้านคนเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล (Photo : AFP)

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ยังกล่าวโจมตีต่อนายคาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศด้วยว่า เป็นหนึ่งในผู้ต่อต้านชาวยิวอย่างร้ายแรงที่สุดในยุคสมัยใหม่ และยังเสมือนเป็นผู้พิพากษาในระบอบนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ปฏิเสธสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวยิว และทำให้เกิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวขึ้น ก่อนทิ้งท้ายว่า การยื่นขอหมายจับของนายคาริม ข่าน ไม่ผิดอะไรกับการน้ำมันบนกองไฟของการต่อต้านชาวยิวอย่างเหี้ยมโหด ซึ่งกำลังมีความโกรธเคืองอยู่ทั่วโลกในเวลานี้ด้วย

พล.อ.โยอาฟ แกลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล (Photo : AFP)

ทางด้าน ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์โซก ของอิสราเอล กล่าวตำหนิวิจารณ์ต่อการยื่นขอออกมายจับข้างต้น และยังรวมไปถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหลายที่ออกมาต่อต้านอิสราเอลในการทำสงครามฉนวนกาซาว่า กลุ่มคนและองค์กรเหล่านี้ ไม่ได้เห็นความคล้ายคลึงที่น่าอับอายและความเท็จระหว่าง ผู้ก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมอย่างกลุ่มฮามาส กับรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านการเลือกตั้งของอิสราเอล

พร้อมกันนี้ ทางการอิสราเอล ยังระบุด้วยว่า ไม่ได้เป็นก่อให้เกิดความอดอยากในฉนวนกาซา โดยการขาดแคลนอาหารไม่ได้เกิดจากปิดล้อมของอิสราเอล แต่มาจากการขโมยของกลุ่มฮามาส และความไร้ประสิทธิภาพในการจัดการของหน่วยงานสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอง

ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ชาติที่ให้การสนับสนุนและยืนเคียงข้างอิสราเอล โดยระบุว่า ศาลไอซีซีทำเกินกว่าเหตุ โดยอิสราเอลไม่ได้กำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และว่า อิสราเอลเองที่ตกเป็นเหยื่อ เป็นผู้ถูกกระทำจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว

3 แกนนำของกลุ่มฮามาส ที่ถูกนายคาริม ข่าน หัวหน้าอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ ยื่นขอหมายจับด้วย (Photo : AFP)

ทางด้าน นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ตำหนิว่า หากศาลไอซีซีออกหมายจับ ก็จะส่งผลกระทบต่อการเจรจาหยุดยิงในสงครามฉนวนกาซา

พร้อมกันนี้ ทางรัฐสภาสหรัฐฯ โดยพลพรรครีพับลิกัน ก็ได้เสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการคว่ำบาตรต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี หากออกหมายจับต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลด้วย ท่ามกลางเสียงสนับสนุนเห็นด้วยโดยทำเนียบขาว

ก็ต้องถือว่า เป็นสถานการณ์ที่เพิ่มดีกรีให้แก่สงครามฉนวนกาซาที่ร้อนแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ให้ทวีเดือดกันยิ่งขึ้น และเพิ่มความซับซ้อนยิ่งขึ้น