ผู้โดยสารสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่ประสบเหตุตกหลุมอากาศ ล่าสุดเดินทางถึงสิงคโปร์แล้ว จำนวน 131 คน และอีก 79 คน ยังพักรักษาตัวที่กรุงเทพฯ  "ประธานาธิบดีสิงคโปร์" แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต ด้าน นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์" โพสต์ร์ซึ้งใจขอบคุณไทย ช่วยเหลือเป็นอย่างดี ขณะที่ "เศรษฐา" ย้ำไทยพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ 

     จากกรณีเครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ขณะบินจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษมุ่งหน้าปลายทางที่ประเทศสิงคโปร์ แต่เกิดตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงต้องประสานขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวๆ ไปแล้วนั้น
    
 ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พ.ค.67 เพจเฟซบุ๊กสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ Singapore Airlines ได้แจ้งว่า ผู้โดยสาร 131 คน และลูกเรือ 12 คน ที่อยู่บนเครื่อง SQ321 เดินทางมาถึงสิงคโปร์แล้ว เมื่อเวลา 05.05 น. (เวลาสิงคโปร์) และยืนยันได้ว่ามีผู้โดยสารเสียชีวิต 1 คน ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บอีก 79 คนและลูกเรืออีก 6 คน ยังคงอยู่ในรักษาตัวกรุงเทพฯ

 ข้อมูลจาก FlightRadar24 แสดงให้เห็นว่า เที่ยวบิน SQ321 ได้เผชิญสภาพอากาศแปรปรวนเมื่อเวลา 15.06 น.ตามเวลาไทย ขณะที่บินอยู่เหนือทะเลอันดามันใกล้ชายฝั่งไทย ทำให้เครื่องบินลดเพดานบินจากระดับ 37,000 ฟุต สู่ระดับ 31,000 ฟุต หรือดิ่งลงถึง 6,000 ฟุต ภายในเวลาเพียง 4 นาที
 
ด้าน นายธาร์มัน ชันมูการัตนัม ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศ ก่อนลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวานนี้

 นอกจากนี้ นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ โพสต์ข้อความและภาพบนบัญชีสังคมออนไลน์ แสดงความยินดี ต่อการที่ผู้โดยสาร 131 คน และลูกเรือ 12 คน จากเที่ยวบิน SQ 321 ของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เดินทางถึงสิงคโปร์โดยสวัสดิภาพ เมื่อช่วงเช้าของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ด้วยเที่ยวบินพิเศษซึ่งสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ส่งไปรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

 ผู้นำสิงคโปร์ ระบุต่อว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนสิงคโปร์ ขอขอบคุณหน่วยงานของไทยที่ให้ความสนับสนุน ด้วยการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้ความดูแลเป็นอย่างดีแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนลูกเรือที่ได้รับผลกระทบเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 อีอาร์ ของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ยังคงจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติวุวรรณภูมิของไทย เมื่อวันที่ 2 2พ.ค. หลังขอลงจอดฉุกเฉิน 1 วันก่อนหน้านั้น เนื่องจากตกหลุมอากาศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

 ขณะเดียวกัน นายหว่องยังแสดงความเสียใจอย่างสูงสุดไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต และส่งกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนมีอาการดีขึ้นเร็ววัน เพื่อที่ทุกคนจะได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย และในระหว่างนี้ กระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ เป็นผู้นำสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบินเอสคิว321 อย่างละเอียด
 
ทั้งนี้ เอสคิว321 ซึ่งใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 อีอาร์ พร้อมผู้โดยสาร 211 คน และลูกเรือ 18 คน เดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร ไปยังสิงคโปร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ระหว่างกำลังบินผ่านเมียนมา อย่างไรก็ดี นักบินนำเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินอย่างปลอดภัย ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิของไทย โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย เป็นชายวัย 73 ปี ชาวสหราชอาณาจักร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 คน.

 ด้าน บริษัทโบอิ้ง ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และยืนยันว่าทางบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X @Thavisin ระบุว่า "ผมได้รับทราบเกี่ยวกับเครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วครับ ทางการไทยพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในทุกด้าน และกระทรวงคมนาคมกำลังเร่งดูแล และประสานเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยครับ"

 ขณะที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ทวีตข้อความเหตุการณ์สิงคโปร์แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศ แอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) @AmbPoohMaris ระบุว่า "เราพร้อมให้ความช่วยเหลือและประสานงานทุกประการที่จำเป็นแก่ผู้บาดเจ็บและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการลงจอดอย่างฉุกเฉินของเที่ยวบิน SQ321 ที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันนี้ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต"