สุรินทร์ แซทพระกับโยมหลุด ทำญาติโยมแห่ให้กำลังใจพระวัดดัง หลังจากที่ตกเป็นข่าวแชท สยิว ปรากฏในสื่อโซเซียล ขณะที่ ผอ.สำนักพุทธ และ เจ้าคณะตำบล เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้(22พ.ค.67) เวลา 12.30น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทาง ลงพื้นที่วัดป่าศรีราชา ม.8 ต.ประดู่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ และ วัดหนองดุม ต.ศรีสุข ซึ่งเป็นวัดเจ้าคณะตำบล ดูแล 2 วัด หลังจากที่ตกเป็นข่าวเกรียวกราวในกรณีที่มีชาวบ้านได้ร้องเรียนการที่โยมกับพระ ส่งแชททักทายมากในสื่อสังคมออนไลน์เฟชบุก พร้อมกับภาพสยิว ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทางพระปิยะ และคนในหมู่บ้าน เขาเรียกชื่อว่าพระโบว์ อายุ 34ปี บวชประจำพรรษามาแล้ว 10 ปี (บวชตั้งแต่เด็ก) ซึ่งพระปิยะ ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้วที่ สภ.สำโรงทาบ เมื่อวานนี้(21พ.ค.67) พร้อมกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้เดินทางมาร่วมด้วย
นางมณเฑียร อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านได้กล่าวว่าเรื่องที่สื่อบางช่อง ได้ นำเสนอข่าวออกไปทั้งหมดคลาดเคลื่อนมากเพราะท่านพระอาจารย์ท่านเป็นพระที่อยู่ในศีลในธรรมที ปรากฏว่าได้มีคนไม่หวังดีนั้นได้แชท ไปทักคุย ตนเองตลอดจนชาวบ้านได้ดูข่าวแล้วเหนื่อยกับการนำเสนอข่าวซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดตนเองอยากจะให้ทางพระได้ชี้แจงบ้างว่าอะไรคืออะไร พระถูกนำเสนอแต่ฝ่ายเดียวซึ่งตนเองและพี่น้องไม่สบายใจอยากให้แก้ข่าวให้หน่อย
พระปิยะ หรือ(พระโบว์)ประจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้มาประมาณ 10 ปีแล้วและเป็นพระลูกวัด ในระหว่างที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสของวัดป่าศรีราชา ได้อาพาตลงทางวัดจึงให้ทางพระปิยะดูแลวัดทั้งหมด ซึ่งคนที่ให้ข่าวลงไปบอกว่าเป็นเจ้าอาวาสซึ่งยังไม่ได้แต่งตั้งเลยก็พากันไปลงข่าวครึกโครมว่าเป็นเจ้าอาวาส และนำเสนอข่าวก็เหมือนกับว่าลงโจมตีวัดอย่างเดียวอยากจะให้แก้ข่าวข้อเท็จจริงให้ด้วย
นายนนท์ อายุ 40 ปี ศิษย์พระอาจารย์ปิยะ บอกว่า การนำเสนอข่าวในครั้งนี้ทำให้พระปิยะ เสียหายเพราะการสักยันต์นั้นพระไม่ได้สักมานานแล้วและภาพที่ลงไปมันก็ไม่ใช่ภาพการแชทมานำมาเสนอ ซึ่งในขณะนี้ทางญาติพี่น้องกำลังปรึกษาหาทนายความมาดำเนินการฟ้องกับเจ้าของแชทที่ส่งไลน์มาเพื่อที่ให้นักข่าวนำมาเสนอข่าวซึ่งมันไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนา จ.สุรินทร์ พร้อมพระครูภาตอินุทสร วัดศรีสุวรรณราช เจ้าอาวาสวัดหนองดุมเจ้าคณะตำบลซึ่งดูแล 2 ตำบลศรีสุข และตำบลประดู่ ได้เข้ามาตรวจสอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามแต่เนื่องจากว่าท่านพระครูไม่สะดวกในการให้ข่าวและไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรกับนักข่าวแต่อย่างใด
ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงไปตรวจสอบในพื้นที่วัดป่าศรีราชก็พบว่ามีรถจำนวน 4 คัน ทยอยขับออกมาจากวัดอย่างรวดเร็วและได้มีชาวบ้านวิ่งเข้าไปภายในกุฏิของพระปิยะ เพื่อสอบถามหาพระปิยะ ชาวบ้านก็บอกว่าท่านมีกิจนิมนต์ไปวัดอื่น
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางออกมาจากวัดก็ได้สอบถามชาวบ้านพบว่า ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการวัดไปไหนโดยชาวบ้านบอกว่าผู้ใหญ่บ้านไม่เข้ามาหรอกพร้อมกับอยากให้ผู้ใดที่ตกเป็นข่าวถ้าผิดก็ขอให้ลาสิกขาออกไปลำพังชาวบ้านก็เหนื่อยใจมาพอสมควร ผู้สื่อข่าวได้เข้าสังเกตการณ์ในครั้งนี้บรรดาพี่น้องที่เดินทางมาให้กำลังใจพระในวัด ในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นเครือญาติของ พระปิยะ