เมื่อ เวลา 19.40 น. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (ทอท.) แถลงข่าวกรณีสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางจากลอนดอน ฮีทโธรว์-ชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยเที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสารจำนวน 211 คน และลูกเรือจำนวน 18 คน ขณะนั้นเครื่องบินอยู่ในน่านฟ้าไทย ทางนักบินจึงขอประสานกับหอบังคับการบิน ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เมื่อเวลา 15.50 น. เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 1 คน บนเครื่องบิน จากเหตุตกหลุมอากาศ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของเรา ก็ได้เข้าปฏิบัติตามแบบแผนที่กำหนดเอาไว้เบื้องต้น ทีมแพทย์ของสุวรรณภูมิก็ได้เข้าถึงเครื่อง และสำรวจพบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมมทั้งมีผู้เสียชีวิต จึงมีการเข้าแผนฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็เข้าสู่พื้นที่ หลังจากนั้นเราได้ประสานกับนักบิน และมีการตกลงกันว่าเราจำเป็นอพยพผู้โดยสารและลูกเรือทันที ซึ่งรถของเจ้าหน้าที่การบินไทยที่พร้อมปฏิบัติฉุกเฉินก็เข้าเทียบท่า แล้วก็เข้าสู่ตามขั้นตอนปฏิบัติช่วยเหลือผู้โดยสาร สำหรับยอดผู้บาดเจ็บวิกฤติ 7 ราย ผู้โดยสารบาดเจ็บปานกลาง 23 ราย ลูกเรือบาดเจ็บปานกลาง 9 ราย ผู้บาดเจ็บเล็กน้อยนำส่งรพ. 16 ราย รักษาที่ holding area 14 ราย รวมทั้งหมด 30 ราย นำส่งรพ.สมิติเวชศรีนครินทร์ ผู้เสียชีวิตยืนยันเป็นชาย 1 ราย สัญชาติอังกฤษ อายุ 73 ปี เบื้องต้นทราบว่าเป็นโรคหัวใจ ซึ่งอยู่ระหว่างการชันสูตรต่อไป เบื้องต้นในเครื่องไม่มีคนไทยเพราะ เครื่องมาจากอังกฤษและจะไปสิงคโปร
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ขอยืนยันสาเหตุว่าเป็นการตกหลุมอากาศ ขณะนี้มีผู้โดยสารจำนวนมาก ประมาณเกือบ 200 คน ที่พร้อมที่จะเดินทาง อยู่ในสุขภาพจิตที่ดี ตอนนี้ก็พักรับประทานกันโดยทางท่าอากาศยานและทางการบินไทยได้จัดไว้ให้ การอพยพและช่วยเหลือผู้โดยสารที่บาดเจ็บให้ไวที่สุด เบื้องต้นได้พูดคุยกัปตันเท่านั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางนักบินหรือลูกเรือ ซึ่งในส่วนสาเหตุต้องรอการสอบสวนอุบัติเหตุจากทางสำนักงานการบินพลเรือน ก็จะมีการสอบสวนนักบินต่อไป
ตอนนั้นเราช่วยให้ผู้โดยสารออกมาจากจุดเกิดเหตุ สู่รพ.และนำส่งรพ.ให้เร็วที่สุด ในระหว่างที่เกิดเหตุเรามาทราบก็ตอนที่มีการประสานจากนักบิน จึงยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งทางสุวรรณภูมิของเรา ถือว่าเป็นไฟล์ทแรกเลยที่มีการตกหลุมอากาศ มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในขณะนี้ทางสายการบินสิงคโปรแอร์ไลน์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประมาณ 50 ราย เพื่อมาเทคแคร์ดูแลผู้โดยสารที่บาดเจ็บทั้งหมด ที่พักรักษาตัวอยู่ประเทศไทย ก็ประสานงานกับทางเราทำงานร่วมกัน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็จะไปดูแลผู้โดยสารที่พักรอและพร้อมบินต่อ
ผู้โดยสารบางท่านอาจยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็โอเคหมดแล้ว คาดว่าอีก 2 ชม.ในไฟล์ทต่อไปก็จะมีเครื่องบินมารับได้กลับบ้าน ส่วนผู้โดยสารที่บาดเจ็บก็มีญาติที่ไม่ได้บาดเจ็บมาด้วย ก็ขอติดตามไปดูแลที่รพ. สายการบินก็คงจะเข้าไปดูแลอีกที ส่วนตัวเลขของผู้บาดเจ็บในขณะนี้ยังไม่ยืนยัน เพราะอย่างที่บอกว่า มีผู้โดยสารหลายท่านที่ลงมาจากเครื่องยังแข็งแรง ยังไม่มีอาการ พอนั่งสักพักแล้วมีอาการบาดเจ็บซี่โครง หมอเราจึงเข้าไปดูแลเบื้องต้น และก็เข้าไปตรวจที่รพ. ซึ่งจากนี้อีกประมาณ 2 ชั่วโมง อาจจะมีบางท่าน มีอาการ แล้วอยากไปรักษาได้ ก็เลยยังไม่อยากยืนยันตัวเลข
ในระหว่างที่พักรอ อาจมีบางท่านเกิดป่วยหรือเจ็บ แล้วไปรักษาตัว อาจจะทำให้จำนวนผู้โดยสารที่ On Board ลดลงไป ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้โดยสารประมาณคร่าวๆ 170 คน กรณีผู้เสียชีวิตก็จะเป็นขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวร่างก็จะส่งไปทางนิติเวช พิสูจน์ทราบต่อไป หลังจากนั้นก็จะติดต่อประสานกับสถานทูตตามขั้นตอนปฏิบัติ
ส่วนสาเหตุพอทราบคร่าวๆว่า ก่อนเครื่องจะถึงชางงี ประเทศสิงคโปร์ ประมาณ 2-3 ชม. ขณะนั้นอยู่ในช่วงเสริฟ์อาหาร ผู้โดยสารส่วนใหญ่คาดเบล แต่ทางด้านของผู้เสียชีวิตไม่ทราบว่าคาดเบลหรือไม่ ซึ่งภรรยาของผู้เสียชีวิตก็ไปรพ. ในขณะนี้ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็ยังคงดำเนินการตามปกติ มีการรับส่งผู้โดยสารตามปกติ ส่วนเที่ยวบินที่เกิดเหตุก็ได้เข้าไปจอดหลุมจอดฉุกเฉินที่เราเตรียมรองรับไว้ให้ ไม่ได้กระทบต่อการโดยสารอื่นๆ ส่วนไฟล์ทเที่ยวบินที่จะเดินทางมารับผู้โดยสารที่พร้อมเดินทางไปสิงคโปรนั้น จะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณเวลา 21.45 - 22.00 น. ก็จะรับผู้โดยสารไปสู่จุดหมาย