วันที่ 21 พ.ค.67 ที่ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรี  ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีมอบหมายให้ นายขจร ใบพลูทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมสำรวจ เป็นประธานการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการและกิจกรรมสื่อสัญจร ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดอาคารกักเก็บน้ำในลำน้ำคลองบางไผ่และสาขา ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ผ่านระบบ Video Conference ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมี นายจักรกรินทร์ ทัศนา ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม สำนักงานชลประทานที่ 9 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนในพื้นที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อนำเสนอผลการศึกษาโครงการฯ พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

นายขจร ใบพลูทอง เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้จัดทำโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดอาคารกักเก็บน้ำในลำน้ำคลองบางไผ่และสาขา ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อทบทวนศักยภาพของปริมาณน้ำที่ไหลผ่านพื้นที่โครงการฯ หารูปแบบที่เหมาะสมในการพัฒนาคลองบางไผ่และสาขา เพื่อเก็บกักน้ำ ระบายน้ำ เติมน้ำลงสู่ใต้ดิน และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ ตลอดจนนำข้อมูลมาใช้ประกอบในการพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ

สำหรับผลการศึกษาฯ ได้มีการออกแบบเบื้องต้นในการพัฒนาทางน้ำธรรมชาติ (คลองบางไผ่และสาขา) ในลักษณะของการปรับปรุงทางน้ำ และแหล่งเก็บกักน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์เป็นระบบระบายน้ำหลักและป้องกันการเกิดน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่ม 2 ฝั่งลำน้ำ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากปริมาณน้ำหลากอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกักเก็บน้ำต้นทุนได้ประมาณ 2 - 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีความคืบหน้าการดำเนินโครงการฯตามลำดับ โดยเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมปฐมนิเทศ เพื่อเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนแผนดำเนินงานโครงการศึกษาฯ ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ 

จากนั้น ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปดูสถานที่ก่อสร้างโครงการฯ บริเวณคลองหินดาด 1 พร้อมบรรยายเกี่ยวกับรายละเอียด ผลของการศึกษาโครงการให้สื่อมวลชนได้รับทราบ อาทิ สรุปผลการศึกษา รูปแบบแนวทางการพัฒนาโครงการ ผลการศึกษาการวิเคราะห์สมดุลน้ำ ผลการศึกษาด้านความเหมาะสมของโครงการ และผลลัพธ์ที่จะได้จากการดำเนินโครงการฯ เพื่อรองรับการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ EEC ได้อย่างยั่งยืนต่อไป