วันที่ 21 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือลาออกของนายพิชิต ชื่นบาน ที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรีได้ให้เหตุผลว่า ยืนยันชีวิตยึดมั่นในความบริสุทธิ์ทั้งในอดีดและปัจจุบัน ประกอบวิชาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย เมื่อรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยความชอบตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนส่วนรวมเป็นที่สำคัญ ข้าพเจ้าเห็นว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนยังต้องได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่องหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ สังคม การเมืองตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา

“แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องเกี่ยวกับข้าพเจ้า ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าได้ตรวจสอบและเชื่อมั่นโดยสุจริตแล้วว่าข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายทุกประการก็ตาม แต่เรื่องนี้ได้มีการพาดพิงไปถึงท่นนายกรัฐมนตรี หัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดินต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีที่มีความจำเป็นต้องเดินหน้าด้วยความต่อเนื่อง ข้าพเจ้าจึงไม่ยึดติด กับตำแหน่ง ในลักษณะยึดถือประโยชน์ส่วนตนยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนรวม

ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ให้ถือเป็นเจตนาของข้าพเจ้าที่มีต่อนายกรัฐมนตรี "ข้าพเจ้า ขอลาออกจากการดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี" เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ โดยให้มีผลนับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม  2567 เป็นต้นไป

อนึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการลา พระเถรานุเถระ กรรมการมหาเถระสมาคม พระอาจารย์ที่เคารพนับถือ ข้าราชการ และประชาชน ที่ให้กำลังใจต่อข้าพเจ้ามาโดยตลอด นับแต่นี้ขอใช้โอกาสส่วนตัวทำนุบำรุง พระพุทธศาสนาสืบต่อไปจนชีวิตข้าพเจ้าจะหาไม่ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง

(นายพิชิต ชื่นบาน)
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี