หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...

ลมแล้งหน้าร้อน ยังระอุไม่เท่า “ลมการเมือง”  อยู่ดีๆสถานการณ์กลับพลิกผัน พา “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เข้าสู่แดน “คิลลิ่งโซน” เสียอย่างนั้น เมื่อ “40สว.” ออกฤทธิ์ คายพิษ ทิ้งทวน หมดวาระเล่นยื่นคำร้อง ขอให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ลงดาบ “ถอดถอน” ทั้ง “นายกฯเศรษฐา” และ “รัฐมนตรีป้ายแดง” คือ “พิชิต ชื่นบาน” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งทั้งคู่ เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) และ (5) ประเด็นที่ว่าด้วยขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ...*...  

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่ “40สว.” จะยื่นคำร้อง ให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมา เพราะ ผลจากคำวินิจฉัย ย่อมส่งแรงกระทบต่อ “สถานะ” ของ “นายกฯเศรษฐา” ว่าจะอยู่หรือไป ตามมา  เพราะในรายของ “พิชิต” หากผลจากคำวินิจฉัย ออกมาในทางที่ “เป็นลบ”   ทางด้าน “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ก็แค่เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี แต่นี่กลับส่อแววลามไปถึงเก้าอี้ “นายกฯ” ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดข้อสังเกตว่า เบื้องลึก เบื้องหลัง ปฏิบัติของ “40สว.” ครั้งนี้มี “กล” ที่ซ่อน อยู่ใน “เกม” นี้หรือไม่ ...*...

โดยเฉพาะว่าด้วยเรื่อง “เปลี่ยนตัวนายกฯ” ที่เคยกระหึ่มกันมาก่อนหน้านี้ ว่า วาระการทำหน้าที่ “หัวหน้ารัฐบาล” ของ “เศรษฐา” นั้นมีวัน เวลาที่หมดอายุ กำกับเอาไว้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น ยิ่งเมื่อการเคลื่อนไหวของ “ผู้มีอิทธิพล” เหนือ “รัฐบาล” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23 โชว์เหนือ โชว์แอคชั่นชนิดไม่เกรงใจใคร มากเท่าใด จะยิ่งกลายเป็น “ตัวเร่ง” ทำให้ “เศรษฐา” เดินเข้าสู่ “คิลลิ่งโซน” มากขึ้นเท่านั้น ...*...

ทว่าอีกด้านหนึ่ง ต้องเห็นใจ ว่าทำไม “ทักษิณ” ต้องออกหน้ามาเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง แทนที่จะอยู่บ้านเลี้ยงหลาน ทั้ง 7 คนตามที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ ก็เพราะสภาพของ “พรรคเพื่อไทย” นั่นย่อบแยบ บอบช้ำเต็มที ทั้งการเป็น “ฝ่ายค้าน” ติดต่อกันยาวนาน แถมยังต้องมาเจอกับ “พายุสีส้ม”  จาก “พรรคก้าวไกล” ครั้นจะปั้น “ผู้นำรุ่นใหม่” ขึ้นมาชนกับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่เห็น วี่แวว ดังนั้น “ทักษิณ” นอนเลี้ยงหลานอยู่บ้าน ในระหว่าง “พักโทษ” เห็นทีจะยาก !! ...*...

ต้องจับตา ดูละครการเมืองกันยาวๆว่า “พรรคการเมือง” พรรคไหน จะใช้การเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” มาเป็นเครื่องมือ สร้างคะแนน สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง  ไอ้ที่ว่าจะเดินหน้าผลักดันความผิดในคดี ม.112 ให้รวมเอาไว้ใน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม  ออกแอคชั่นกันไม่เว้นแต่วันนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า “แรงต้าน” นั้นมีมากแค่ไหน รู้อยู่แล้วว่า “ยาก” ที่จะไปต่อ  แต่นาทีนี้ไม่ขออะไร นอกเสียจาก “แสง” จากการเสียชีวิต ของ “แกนนำสามนิ้ว” เท่านั้นเป็นพอ ! ...*...

ที่มา:พันแสง (20/05/67)